เพื่อความบันเทิง
Snapdragon ชิปเซตค่าย Qualcomm มีกี่ซีรีส์ อยู่ในโทรศัพท์มือถือรุ่นไหนบ้าง
หากพูดถึงชิปเซตที่กำลังมาแรงในท้องตลาด คงหนีไม่พ้น Snapdragon ชิปเซ็ตตัวดังจากค่าย Qualcomm อย่างแน่นอน ด้วยความที่มีตัวใหม่ออกมาเรื่อย ๆ ในแต่ละปี แถมยังมีรุ่นย่อย ๆ ออกมาอีกด้วย อาจสร้างความสับสนให้ใครหลายคน ในบทความนี้เราได้รวบรวมมาให้แล้วว่า ชิป Snapdragon มีทั้งหมดกี่ซีรีส์ ตัวไหนแรงตัวไหนดี และอยู่ในโทรศัพท์มือถือ Samsung รุ่นไหนบ้าง ถ้าพร้อมแล้วตามมาสำรวจกันเลย!
เลือกดูโปรโมชั่นมือถือและเป็นเจ้าของก่อนใคร
ทำความรู้จัก Snapdragon คืออะไร?
Snapdragon คืออะไร? สแนปดราก้อน หรือ Snapdragon คือหน่วยประมวลผลที่ใช้ในมือถือหลากหลายรุ่น ตั้งแต่รุ่นเรือธงไปจนถึงรุ่นเริ่มต้น โดย Snapdragon เป็นหน่วยประมวลผลที่รวมการทำงานส่วนต่าง ๆ เข้ามาไว้บนบอร์ดแผ่นเดียว หรือที่เรียกกันว่าชิปเซต (Chipset) ไม่ว่าจะเป็น CPU, GPU, ISP, NPU, Modem เป็นต้น ซึ่งชิปเซต Snapdragon นี้เป็นผลิตภัณฑ์ของบริษัท Qualcomm ประเทศอเมริกา
ในปัจจุบันชิปเซต Snapdragon ได้แยกย่อยออกมาหลายซีรีส์ เริ่มตั้งแต่ 2, 4, 6, 7 และ 8 โดยซีรีส์ 8 จะใช้ในมือถือระดับเรือธงหรือในโทรศัพท์รุ่นใหม่ ซีรีส์ 7 และ 6 จะใช้ในมือถือระดับกลาง ส่วนซีรีส์ 4 และ 2 ก็จะใช้ในมือถือระดับเริ่มต้น ลดหลั่นกันมาตามตัวเลข ซึ่งในบทความนี้จะกล่าวถึงชิปเซต Snapdragon ที่มีอยู่ในโทรศัพท์ Samsung ตั้งแต่ซีรีส์ 8 - ซีรีส์ 4 ว่าจะเร็ว แรง สูสีกันมากแค่ไหน
Snapdragon มีกี่ซีรีส์กันนะ?
โดยหลัก ๆ แล้ว CPU Snapdragon มีทั้งหมด 4 ซีรีส์ด้วยกัน ได้แก่ ซีรีส์ 8, ซีรีส์ 7, ซีรีส์ 6 และซีรีส์ 4 ซึ่งชิปเซตแต่ละซีรีส์ก็จะใช้ตัวเลขในการบ่งบอกถึงระดับความแรง ดังนี้
• Snapdragon 4 และ 6 Series ชิปเซตระดับเริ่มต้น - กลาง
• Snapdragon 7 Series ชิปเซตระดับสูง
• Snapdragon 8 Series ชิปเซตระดับตัวท็อป
อย่างไรก็ตามชิปเซตในแต่ละซีรีส์ก็จะถูกแบ่งระดับออกไปอีกเช่นกัน โดย Snapdragon มีรุ่นไหนบ้าง มีรายละเอียดดังนี้
Snapdragon 8 Series
Snapdragon ซีรีส์ 8 ชิปเซตเรือธงล่าสุดของค่าย Qualcomm ที่มีตัวเลขด้านหน้าเป็นเลข 8 เป็นชิปโมบายที่มี CPU แบบ Muti-Core อัดแน่นทุกเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดแสนทรงพลัง รองรับการใช้งานทั่วโลก แถมยังเล่นเกมโหด ๆ ได้อย่างลื่นไหล ซึ่งชิปเซต Snapdragon ล่าสุดที่ค่ายพึ่งปล่อยออกมาคือ Snapdragon 8 Gen 2 เรียกได้ว่าสร้างความตื่นเต้นเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ชิปเซต Snapdragon ซีรีส์ 8 ยังมีอีกหลายรุ่นให้เลือกใช้ตามความเหมาะสม ได้แก่
Snapdragon 8 Gen 2
Snapdragon 8 Gen 2 ชิปเซต Snapdragon ล่าสุด ใช้สถาปัตยกรรมการผลิต 4 นาโนเมตร มาพร้อมกับ CPU Kryo ประมวลผลสูงสุดที่ความเร็ว 3.2GHz เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานสูงขึ้น 35% และประหยัดพลังงานมากกว่าเดิมถึง 40% ในส่วนของ GPU ใช้ชิป Adreno พร้อมรองรับเทคโนโลยี Ray Tracing สำหรับเรนเดอร์เอฟเฟกต์แสงและเงาในเกมได้อย่างสมจริงมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังได้ชิปประมวลผลตัวใหม่ Hexagon เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากกว่าที่เคยมีมา นอกจากนี้ชิปอันทรงพลังยังทำให้คุณทำเพลิดเพลินไปกับการใช้งานได้อย่างลงตัวและลื่นไหล
Snapdragon 8+ Gen 1
Snapdragon 8+ Gen 1 ใช้สถาปัตยกรรมการผลิต 4 นาโนเมตร เป็นรุ่นที่อัปเกรดขึ้นมาจาก Snapdragon 8 Gen 1 โดยปรับปรุงการประมวลผลของ CPU ให้เร็วขึ้น 10% และประหยัดพลังงานมากขึ้น 30% มาพร้อม CPU Kryo ประมวลผลสูงสุดที่ความเร็ว 3.2GHz ในส่วนของหน้าจอแสดงผลสามารถรองรับความละเอียดระดับ QHD+ รองรับค่า Refresh Rate 144Hz นอกจากนี้ยังปรับให้การเชื่อมต่อสัญญาณ 5G ดียิ่งขึ้น
Snapdragon 8 Gen 1
Snapdragon 8 Gen 1 เป็นชิปเซตที่ใช้สถาปัตยกรรม 4 นาโนเมตรรุ่นแรกของ Qualcomm มาพร้อม CPU Kryo 3.0GHz CPU ที่มีประสิทธิภาพดีกว่าเดิม 20% และประหยัดพลังงานกว่าเดิมสูงถึง 30% เมื่อเทียบกับชิปรุ่นดังอย่าง Snapdragon 888 อีกทั้งยังมอบประสบการณ์สุดพิเศษจากการเล่นเกมที่ลื่นไหล สมจริงด้วย GPU Adreno นอกจากนี้ AI Engine Gen 7 ยังเร็วกว่าตัวเดิมถึง 4 เท่า จึงทำให้การใช้งาน หรือถ่ายภาพเป็นไปได้อย่างราบรื่น และดีกว่าเก่า
Snapdragon 888 Plus
Snapdragon 888 Plus ผลิตด้วยสถาปัตยกรรมขนาด 5 นาโนเมตร เป็นชิปเซตเวอร์ชันอัปเกรดที่พัฒนามาจาก Snapdragon 888 มีการปรับ Clock Speed ของแกน CPU Kyro 685 ให้แรงขึ้นเป็น 3.0GHz เปลี่ยน AI Engine เป็น Hexagon 780 และเปลี่ยน Sensing Hub เป็นรุ่นใหม่ นอกจากนี้โทรศัพท์ Snapdragon 888 ยังรองรับการเชื่อมต่อกับ FastConnect 6900 ครบครันทั้ง Wi-Fi 6E, Bluetooth 5.2 และ USB Type-C 3.1
Snapdragon 888
มือถือ Snapdragon 888 ชิปเซตตัวท็อปของ Qualcomm ที่เปิดตัวเมื่อปลายปี 2020 ใช้การผลิตด้วยสถาปัตยกรรม 5 นาโนเมตร CPU Kryo 680 ความเร็วสูงสุด 2.84GHz การ์ดจอตัวใหม่ Adreno 660 มีประสิทธิภาพสูงขึ้น 35% รองรับการแสดงผล Refresh Rate 144Hz พร้อมให้คุณได้เล่นเกมได้อย่างลื่นไหล ภายในตัวชิปมาพร้อมกับโมเด็ม Snapdragon X60 5G รุ่นที่ 3 รองรับเครือข่าย 5G แบบ Sub-6 และ mmWave ความเร็วสูงสุดถึง 7.5Gbps
Snapdragon 870
Snapdragon 870 ชิปเซตตัวแรงที่ออกมาต้นปี 2021 ถูกผลิตบนสถาปัตยกรรมขนาด 7 นาโนเมตร ใช้ CPU Kryo 585 Clock Speed 3.2GHz ทำงานคู่กับ GPU Adreno 650 ใช้ชิปประมวลภาพ Spectra 480 สามารถรองรับกล้องความละเอียดสูงได้ถึง 200MP ถ่ายวิดีโอได้ทั้ง 4K และ Super Slow Motion 960fps บนความละเอียด 720p
Snapdragon 865+
Snapdragon 865+ ชิปเซตที่เปิดตัวกลางปี 2020 ถูกพัฒนาความแรงเพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับ Snapdragon 865 ชิปเซต Snapdragon 865+ นี้ผลิตด้วยสถาปัตยกรรมขนาด 7 นาโนเมตร มาพร้อม CPU Kryo ความเร็วสูงสุด 3.1GHz รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 หน้าจอค่า Refresh Rate 144Hz และ Bluetooth 5.2
Snapdragon 865
Snapdragon 865 ชิปเซตเรือธงอีกหนึ่งรุ่นเปิดตัวด้วย CPU Kryo 585 ความเร็วสูงสุด 2.84GHz GPU Adreno 650 ทำให้ชิปตัวนี้แรงขึ้นและประหยัดพลังงานมากขึ้น อีกทั้งยังมาพร้อมกับ AI Engine รุ่นที่ 5 รองรับการถ่ายภาพและวิดีโอความละเอียดสูง 200MP และ 8K
Snapdragon 860
Snapdragon 860 ชิปเซตที่เปิดตัวในปี 2019 ใช้สถาปัตยกรรมการผลิตระดับ 7 นาโนเมตร มาพร้อม CPU Kryo 485 Clock Speed 2.96GHz GPU Adreno 640 ใช้ชิปประมวลภาพ Spectra 380 สามารถรองรับกล้องความละเอียดสูงสุด 192MP
Snapdragon 8 Series / Spec |
กระบวนการผลิต |
CPU |
GPU |
Modem |
Camera |
Wi-Fi & Bluetooth |
---|---|---|---|---|---|---|
8 Gen 2 |
4 nm |
Kryo @3.36GHz |
Adreno |
Snapdragon X70 5G |
200MP Photo Capture |
Wi-Fi 7 Bluetooth 5.3 |
8+ Gen 1 |
4 nm |
Kryo @3.2GHz |
Adreno |
Snapdragon X65 5G |
200MP Photo Capture |
Wi-Fi 6E Bluetooth 5.3 |
8 Gen 1 |
4 nm |
Kryo @3.0GHz |
Adreno |
Snapdragon X65 5G |
200MP Photo Capture |
Wi-Fi 6 Bluetooth 5.2 |
888+ |
5 nm |
Kryo 685 @3.0GHz |
Adreno 660 |
Snapdragon X60 5G |
200MP Photo Capture |
Wi-Fi 6 Bluetooth 5.2 |
888 |
5 nm |
Kryo 680 @2.84GHz |
Adreno 660 |
Snapdragon X60 5G |
200MP Photo Capture |
Wi-Fi 6 Bluetooth 5.2 |
870 |
7 nm |
Kryo 585 @3.2GHz |
Adreno 650 |
Snapdragon X55 5G |
200MP Photo Capture |
Wi-Fi 6 Bluetooth 5.2 |
865+ |
7 nm |
Kryo 585 @3.1GHz |
Adreno 650 |
Snapdragon X55 5G |
200MP Photo Capture |
Wi-Fi 6 Bluetooth 5.2 |
865 |
7 nm |
Kryo 585 @2.84GHz |
Adreno 650 |
Snapdragon X55 5G |
200MP Photo Capture |
Wi-Fi 6 Bluetooth 5.1 |
860 |
7 nm |
Kryo 485 @2.96GHz |
Adreno 640 |
Snapdragon X50 5G |
48MP Single Camera 22MP Dual Camera |
Wi-Fi 802.11 Bluetooth 5.0 |
Snapdragon 7 Series
Snapdragon 7+ Gen 2
Snapdragon 7+ Gen 2 ชิปเซตที่แรงเฉียดรุ่นใหญ่ ใช้สถาปัตยกรรมการผลิต 4 นาโนเมตร มาพร้อม CPU Kryo ความเร็วสูงสุด 2.91GHz ใช้โมเด็ม Snapdragon X62 5G สามารถรองรับกล้องความละเอียดสูงสุด 200 MP อีกทั้งยังมีการพัฒนา AI ให้ประมวลผลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 40%
Snapdragon 7 Gen 1
Snapdragon 7 Gen 1 ชิปเซตที่เปิดตัวพร้อม Snapdragon 8+ Gen 1 ใช้สถาปัตยกรรมการผลิต 4 นาโนเมตร Snapdragon 7 Gen 1 มาพร้อมกับ CPU Kryo ความเร็วสูงสุด 2.4GHz พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ 5G และ Wifi 6E รวมถึง Bluetooth 5.3
Snapdragon 778G+
Snapdragon 778G+ ชิปเซตที่อัปเกรดต่อยอดมาจาก Snapdragon 778G ถูกผลิตบนสถาปัตยกรรม 6 นาโนเมตร CPU Cortex-A78 2.5GHz ทำงานคู่กับ GPU 642 L รองรับการแสดงผลที่ความละเอียดสูงสุด 4K 60fps และ Full HD 144Hz
Snapdragon 778G
Snapdragon 778G ชิปเซตตัวท็อปของชิปประมวลผลระดับกลาง ถูกผลิตบนสถาปัตยกรรม 6 นาโนเมตร มาพร้อม CPU Kryo 670 แบ่งเป็น Cortex-A78 ความเร็ว 2.4GHz จำนวน 4 แกน และ Cortex-A55 ความเร็ว 1.8GHz อีก 4 แกน GPU ทำงานร่วมกับ Adreno 642L มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่ารุ่นก่อน 40% และใช้ชิป AI Hexagon 770
Snapdragon 780G
Snapdragon 780G ผลิตบนสถาปัตยกรรมขนาด 5 นาโนเมตร ใช้ CPU Kryo 670 และ Adreno 642 มาพร้อมกับโมเด็ม 5G ในตัว สามารถทำความเร็วได้สูงสุด 3.3Gbps รองรับ Wifi 6E, Wifi 6 และ Bluetooth 5.2 ที่ปกติจะมีอยู่แค่ในชิปเซตระดับตัวท็อป นอกจากนี้ยังรองรับการถ่ายวิดีโอแบบ HDR10+ และ 4K อีกด้วย
Snapdragon 7 Series / Spec |
กระบวนการผลิต |
CPU |
GPU |
Modem |
Camera |
Wi-Fi & Bluetooth |
---|---|---|---|---|---|---|
7+ Gen 2 |
4 nm |
Kryo @2.91GHz |
Adreno |
Snapdragon X62 5G |
200MP Photo Capture |
Wi-Fi 6E Bluetooth 5.3 |
7 Gen 1 |
4 nm |
Kryo @2.4GHz |
Adreno |
Snapdragon X62 5G |
200MP Photo Capture |
Wi-Fi 6E Bluetooth 5.2 |
778G+ |
6 nm |
Kryo 670 @2.5GHz |
Adreno 642L |
Snapdragon X53 5G |
200MP Photo Capture |
Wi-Fi 6 Bluetooth 5.2 |
778G |
6 nm |
Kryo 670 @2.4GHz |
Adreno 642L |
Snapdragon X53 5G |
200MP Photo Capture |
Wi-Fi 6 Bluetooth 5.2 |
780G |
5 nm |
Kryo 670 @2.4GHz |
Adreno 642 |
Snapdragon X53 5G |
192MP Photo Capture |
Wi-Fi 6 Bluetooth 5.2 |
Snapdragon 6 Series
Snapdragon 6 Gen 1
Snapdragon 6 Gen 1 ชิปเซตสำหรับมือถือระดับกลาง ผลิตบนสถาปัตยกรรมขนาด 4 นาโนเมตร ใช้ CPU Kryo 2.2GHz ประสิทธิภาพดีขึ้น 35% ทำงานคู่กับ GPU Adreno ประสิทธิภาพดีขึ้น 30% มาพร้อมโมเด็ม Snapdragon X62 5G เป็นตัวแรกในซีรีส์ 6 ที่มี Fuse Accelerator Architecture ทำให้ช่วยประหยัดพลังงานแบตเตอรี่เหมือนชิปซีรีส์รุ่นท็อปอย่าง 7 และ 8
Snapdragon 695
Snapdragon 695 ชิปเซตสำหรับมือถือระดับกลาง ผลิตบนสถาปัตยกรรมขนาด 6 นาโนเมตร ใช้ CPU Kryo 660 และ GPU Adreno 619 รองรับ 5G ทั้งแบบ sub-6 และ mmWave มีเทคโนโลยี Quick Charge 4+ ที่จะช่วยให้การชาร์จแบตเตอรี่ได้ปริมาณไฟถึง 50% ในเวลาเพียง 15 นาที
Snapdragon 680
Snapdragon 680 ชิปเซตสำหรับมือถือระดับกลาง ผลิตด้วยสถาปัตยกรรมขนาด 6 นาโนเมตร ใช้ CPU Kryo 265 และ GPU Adreno 610 มาพร้อมชิปประมวลผล 4G ถือได้ว่าน่าสนใจไม่น้อย เพราะสามารถทำให้ราคาโทรศัพท์ไม่สูงจนเกินไป แต่ยังคงได้โทรศัพท์ที่เร็ว แรง และเต็มประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมี Quick Charge 3.0 ที่จะทำให้ชาร์จแบตเตอรี่ได้ถึง 50% ภายใน 30 นาทีเท่านั้น
Snapdragon 6 Series / Spec |
กระบวนการผลิต |
CPU |
GPU |
Modem |
Camera |
Wi-Fi & Bluetooth |
---|---|---|---|---|---|---|
6 Gen 1 |
4 nm |
Kryo @2.2GHz |
Adreno |
Snapdragon X62 5G |
200MP Photo Capture |
Wi-Fi 6E Bluetooth 5.2 |
695 |
6 nm |
Kryo 660 @2.2GHz |
Adreno 619 |
Snapdragon X51 5G |
108MP Photo Capture |
Wi-Fi 6 Bluetooth 5.2 |
680 |
6 nm |
Kryo 265 @2.4GHz |
Adreno 610 |
Snapdragon X11 LTE |
64MP Photo Capture |
Wi-Fi 802.11 Bluetooth 5.1 |
Snapdragon 4 Series
ชิปเซต Snapdragon ซีรีส์ 4 นี้ถึงแม้ว่า CPU จะเป็นรองชิปเซตรุ่นท็อป ๆ แต่มาเหนือกว่าในเรื่องการจัดการพลังงาน ทำให้โดดเด่นในเรื่องกินพลังงานน้อย สามารถใช้งานได้ทั้งวันอย่างไม่ต้องกังวล
Snapdragon 4 Gen 1
Snapdragon 4 Gen 1 ชิปเซตสำหรับรุ่นเริ่มต้น ผลิตบนสถาปัตยกรรม 6 นาโนเมตร ใช้ CPU Kryo ความเร็วสูงสุด 2.00GHz ประสิทธิภาพดีขึ้น 15% ทำงานคู่กับ GPU Adreno ประสิทธิภาพดีขึ้น 10% รองรับการเชื่อมต่อ 5G หน้าจอ Refresh Rate 120Hz ความละเอียด FHD+ มาพร้อมกล้องความละเอียดถึง 108MP สอดคล้องทุกการใช้งาน
Snapdragon 480+
Snapdragon 480+ ชิปเซต 5G สำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นเริ่มต้น ผลิตบนสถาปัตยกรรมขนาด 8 นาโนเมตร ใช้ CPU Kryo 460 ความเร็วสูงสุด 2.2 GHz และ GPU Adreno 619 ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน มีโมเด็ม X51 รองรับการใช้งาน 5G ทั้ง sub-6GHz และ mmWave พร้อมรองรับทุกการเชื่อมต่อทั่วโลก
Snapdragon 480
Snapdragon 480 ชิปเซตราคาประหยัด ผลิตบนสถาปัตยกรรมขนาด 8 นาโนเมตร ใช้ CPU Kryo 460 ความเร็วสูงสุด 2.0GHz และ GPU Adreno 619 มาพร้อมโมเด็ม X51 รองรับการใช้งาน 5G ทั้ง sub-6GHz และ mmWave
Snapdragon 4 Series / Spec |
กระบวนการผลิต |
CPU |
GPU |
Modem |
Camera |
Wi-Fi & Bluetooth |
---|---|---|---|---|---|---|
4 Gen 1 |
6 nm |
Kryo @2.0GHz |
Adreno |
Snapdragon X51 5G |
108MP Photo Capture |
Wi-Fi 5 Bluetooth 5.2 |
480+ |
8 nm |
Kryo 460 @2.2GHz |
Adreno 619 |
Snapdragon X51 5G |
64MP Photo Capture |
Wi-Fi 6 Bluetooth 5.2 |
480 |
8 nm |
Kryo 460 @2.0GHz |
Adreno 619 |
Snapdragon X51 5G |
64MP Photo Capture |
Wi-Fi 6 Bluetooth 5.1 |
Snapdragon 8 Series มีอยู่ในโทรศัพท์รุ่นไหนบ้าง
อยากได้มือถือสเปคแรง ใช้งานได้อย่างลื่นไหล ไม่มีค้าง แน่นอนว่าก็ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องชิปเซต แล้ว CPU Snapdragon ตัวไหนแรงสุด ตัวไหนปังมาดูลิสต์กันเลย
Galaxy S23 | S23 Ultra
Samsung Galaxy S23 และ Galaxy S23 Ultra สมาร์ทโฟนเรือธงที่พึ่งเปิดตัวล่าสุด มาพร้อมกับชิปเซตรุ่นพิเศษที่ผลิตมาเพื่อมือถือซัมซุงซีรีส์นี้โดยเฉพาะ นั่นก็คือชิปเซต Snapdragon 8 Gen 2 for Galaxy หนึ่งในชิปเซตที่เร็วที่สุดในโลก ทำให้คุณเพลิดเพลินไปการเล่นเกมและสตรีมวิดีโอได้อย่างไม่มีสะดุด ไหลลื่นมากกว่าเดิม แถมแบตเตอรี่ก็ยังอึดทนนาน ปลดล็อกการใช้งานได้ทั้งวันอย่างสบายใจ
นอกจากนี้ชิปเซต Snapdragon 8 Gen 2 ที่ใช้ใน Samsung S23 Series ยังโดดเด่นในเรื่องการประมวลภาพกราฟิก และการใช้หน้าจอการแสดงผลแบบ 120Hz ที่ปรับ Refresh Rate อัตโนมัติขึ้นอยู่กับการใช้งาน ณ เวลานั้น ๆ แถม Galaxy S23 ยังมีค่าความสว่างสูงสุดกว่าโทรศัพท์รุ่นอื่น ช่วยให้คุณสามารถมองเห็นหน้าจอโทรศัพท์แม้ว่าจะอยู่กลางแจ้งได้อย่างเต็มที่ โดยคุณสามารถสัมผัสกับความเร็วแรงของชิปเซ็ตตัวนี้ใน Samsung S23 Series ได้ในราคาเริ่มต้นที่ 30,900 บาท หรือ ผ่อน 0% นาน 10 เดือน เพียง 3,090 บาท/เดือน
Galaxy S22 | S22 Ultra
Samsung Galaxy S22 และ Galaxy S22 Ultra สมาร์ทโฟนที่ทำให้ทุกวันของคุณง่ายขึ้น มาพร้อมชิปเซต Snapdragon 8+ Gen1 ชิปเซตที่เร็วแรงไม่แพ้ใคร ด้วย CPU Speed 2.99GHz ไม่ว่าจะเล่นเกม ถ่าย Vlog หรือใช้งานตลอดทั้งวันก็ไม่ทำให้เป็นเรื่องน่าเบื่อ และครั้งแรกกับหน่วยประมวลผลขนาด 4 นาโนเมตร ใน Samsung Galaxy พร้อมแบตเตอรี่ที่อึดสุด ๆ จะช่วยเพิ่มประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหล ราบรื่นอย่างไม่น่าเชื่อ
นอกจากนี้ Samsung S22 Ultra ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี AI ร่วมกับหน่วยประมวลผล 4 นาโนเมตร ที่มี Super Night Solution ที่จะช่วยในเรื่องการถ่ายภาพกลางคืนให้ดูสดใสขึ้น ฉากหลังสว่างขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ อีกทั้งยังเก็บสี รายละเอียด ขจัดนอยส์ในแต่ละเฟรมได้ชัดเจน คุณสามารถจับจองเป็นเจ้าของโทรศัพท์ Samsung S22 Ultra ตัวแรงได้ในราคาเริ่มต้น 31,900 บาท หรือ ผ่อน 0% นาน 15 เดือน เพียง 2,127 บาท/เดือน
Galaxy Z Fold4
Samsung Galaxy Z Fold4 อีกรุ่นของ โทรศัพท์พับได้ ที่ใหญ่ที่สุด 7.6 นิ้ว มาพร้อมกับชิปเซต Snapdragon 8+ Gen 1 โดดเด่นในเรื่องมุมมองหลายหน้าต่าง และ WiFi 6E ที่รวดเร็วเป็นพิเศษ หน้าจอแสดงผลมี Refresh Rate 120Hz ตอบสนองการใช้งานอย่างลื่นไหล สีสวยคมชัด ไม่ว่าจะใช้งานหลายแอป เลื่อนหน้าจอไปมา หรือจะเล่นเกมหนัก ๆ ก็ทำได้อย่างเพลิดเพลิน ไม่มีกระตุก
นอกจากนี้ตัวกล้องของ Samsung Galaxy Z Fold4 ยังทำได้ดีไม่แพ้รุ่นพี่เลย โดยใช้ฮาร์ดแวร์กับซอฟต์แวร์ที่มีนวัตกรรมทำงานร่วมกันเพื่อให้สามารถถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อย แถมหน่วยประมวลผลที่ทรงพลังอย่าง Snapdragon 8+ Gen 1 จะช่วยเพิ่มสีสันและความคมชัดของภาพได้อย่างเฉลียวฉลาดในทุก ๆ ช็อต ด้วยราคาเริ่มต้น 59,900 บาท หรือ ผ่อน 0% นาน 15 เดือน เพียง 3,993 บาท/เดือน
Galaxy Z Flip4
Samsung Galaxy Z Flip4 มือถือน้องเล็กที่เปลี่ยนวันธรรมดาให้กลายเป็นวันที่สนุกสดใส เห็นเครื่องเล็ก ๆ แบบนี้แต่พกชิปเซต Snapdragon 8+ Gen 1 ตัวแรงมากับเครื่อง รองรับ Refresh Rate ที่ 120Hz แถมมีการอัปเกรดจากตัวเก่าขึ้นมา เพิ่มความจุแบตเตอรี่ขึ้น 12% จาก 3,300 เป็น 3,700mAh กล้องหน้าความละเอียด 10MP และกล้องคู่ด้านหลังที่ประกอบไปด้วย เลนส์ Ultra Wide และ เลนส์ Wide ความละเอียด 12MP เรียกได้ว่าจะพับหรือเปิดก็สามารถใช้งานกล้องได้ทั้งคู่เลย
แถมมากับหน่วยประมวล 4nm ไม่ว่าจะเล่นเกม ทำงานหลายอย่างพร้อมกันก็ไม่มีสะดุด ไม่มีอะไรทำให้ผิดหวังเลยจริง ๆ Samsung Galaxy Z Flip4 พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของโทรศัพท์เครื่องเล็ก แต่สเปคแรงได้ในราคาเริ่มต้น 35,900 หรือ ผ่อน 0% นาน 15 เดือน เพียง 2,393 บาท/เดือน
Galaxy Z Fold3 5G
Samsung Galaxy Z Fold3 5G ไม่ว่าจะพับจอเข้าหรือกางจอออกก็เหมาะกับการใช้งานได้ทั้งคู่ มาพร้อมชิปเซต Snapdragon 888 5G ขนาด 5nm หน้าจอหลัก Dynamic AMOLED 2X ขนาด 7.6 นิ้ว Refresh Rate ที่ 120Hz RAM 12GB ปลดล็อกประสิทธิภาพการทำงานอย่างไม่มีสะดุด จะเปิดสลับแอปหลายตัวพร้อมตัวเหมือนพีซีก็ทำได้ จะจดบันทึกก็ทำได้ดี ตอบโจทย์สายทำงานเป็นอย่างยิ่ง เพราะถูกอัปเกรดทั้ง GPU, CPU, NPU และ RAM มาแล้ว
นอกจากนี้ยังมี AI ที่ช่วยรักษาสีและความคมชัดในการถ่ายภาพกลางคืนอีกด้วย คุณสามารถเปลี่ยนภาพถ่ายทั่วไปให้กลายเป็นภาพถ่ายระดับมือโปรได้อย่างง่ายดาย ในราคาเริ่มต้น 57,900 บาท
Galaxy Z Flip3 5G
Samsung Galaxy Z Flip3 5G มือถือที่ได้รับการขนานนามให้เป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่ดีที่สุดแห่งปี 2021 ของนิตยสาร TIME มาพร้อมกับชิปเซต Snapdragon 888 5G และการเลื่อนดูที่ลื่นไหลแบบ 120Hz จะปัดซ้ายปัดขวา เลื่อนดู ลากหรือวางได้อย่างไม่มีติดขัด แถมหน้าจอยังปรับค่า Refresh Rate ให้เหมาะสมกับสิ่งที่คุณกำลังรับชมอยู่ด้วย นอกจากนี้ยังได้หน่วยประมวลผล 5G ขับเคลื่อนด้วย GPU, CPU และ NPU ที่ดีกว่าเดิม ทำงานคู่กับ RAM 8GB รับรองว่าเล่นเกมได้แบบลืมเวลาเลย ในราคาเริ่มต้น 31,900 บาท
Snapdragon 7 Series มีอยู่ในโทรศัพท์รุ่นไหนบ้าง
Galaxy A73 5G
Samsung Galaxy A73 5G มือถือที่ตอบโจทย์การใช้งานได้ทุกประเภท จะเล่นเกมก็ลื่นไหล จะใช้งานในชีวิตประจำวันก็ใช้ได้เต็มประสิทธิภาพ ด้วยชิปเซต Snapdragon 778G ตัวท็อปของชิปเซตระดับกลาง กล้องคมชัด 108MP แบตเตอรี่ความจุสูง 3,700 mAh ใช้งานได้อย่างยาวนาน รองรับ 5G หน้าจอความละเอียด Super AMOLED มาพร้อม Refresh Rate 120Hz ช่วยให้การแสดงผลลื่นไหล พ่วงด้วย RAM 8GB สามารถเล่นเกมและใช้งานสู้รุ่นใหญ่ ๆ ได้อย่างสูสี
Galaxy A52s 5G
Samsung Galaxy A52s 5G มือถือที่อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์ระดับเรือธง แต่ราคาหมื่นต้น ๆ ขับเคลื่อนด้วยชิปเซต Snapdragon 778G ที่ประมวลผลได้เร็ว และประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้น มีจุดเด่นในด้านหน้าจอแสดงผลแบบ Super AMOLED Infinity-O Display แสดงสีสันอย่างสดใส พร้อมมี Refresh Rate 120Hz ช่วยให้การแสดงผลดีเยี่ยมไม่แพ้รุ่นท็อป ๆ เลย
นอกจากนี้ยังโดดเด่นเรื่องการถ่ายภาพกับชุดกล้องหลัง 4 ตัว ความละเอียดสูงถึง 64MP มีเลนส์ถ่ายภาพทุกระยะ ได้แก่ เลนส์ Wide, เลนส์ Ultrawide, เลนส์ Macro และ เลนส์ Depth ส่วนเรื่องแบตเตอรี่ก็ให้มาถึง 4500 mAh รองรับระบบชาร์จเร็วทันใจ 25W
Snapdragon 6 Series มีอยู่ในโทรศัพท์รุ่นไหนบ้าง
Galaxy A23 5G
Samsung Galaxy A23 5G มือถือที่ประกอบไปด้วยขุมพลัง Snapdragon 695 และ RAM 8GB พร้อมให้คุณทำอะไรได้เต็มประสิทธิภาพ และหลากหลายอย่างพร้อมกัน ด้วย CPU Speed 2.2GHz พื้นที่จัดเก็บภายใน 128GB หรือจะเพิ่มสูงสุดถึง 1TB ด้วยการ์ด MicroSD นอกจากนี้ยังมีแบตเตอรี่ 5,000mAh ที่อึดทนอยู่ได้ทั้งวันแบบสบาย ๆ ไม่ว่าจะเล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง ก็ไม่มีติดขัด
อีกทั้งยังมีหน้าจอแสดงผลขนาด 6.6 นิ้ว และเทคโนโลยี FHD+ กับ Refresh Rate 120Hz ทำให้คุณได้รับชมกับสิ่งต่าง ๆ ที่คมชัดและไหลลื่นในทุก ๆ วัน นอกจากนี้ Samsung A23 5G ก็ยังโดดเด่นในเรื่องกล้องไม่แพ้ใคร สามารถถ่ายวิดีโอด้วยกล้องกันสั่น OIS และกล้องหลักที่คมชัดถึง 50MP มั่นใจได้ว่าคุณจะได้ภาพที่หลากหลายมุมมอง
Snapdragon ซีรีส์ไหนเหมาะกับใคร
ชิปเซต Snapdragon แต่ละซีรีส์เหมาะกับไลฟ์สไตล์แบบไหน ควรเลือกใช้อย่างไร ลองมาสำรวจตัวเองกันได้เลย!
Snapdragon 8 Series |
Snapdragon 7 Series |
Snapdragon 6 Series |
Snapdragon 4 Series |
|
---|---|---|---|---|
สมาร์ทโฟน |
เหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้สมาร์ทโฟนแบบครอบคลุมทุกการใช้งาน ไม่มีสะดุด ประสิทธิภาพสูงระดับเรือธง |
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนรุ่นรองจากเรือธง แต่ก็ยังคงความประสิทธิภาพเร็วและแรง |
เหมาะกับผู้ที่ต้องการขยับขึ้นมาใช้สมาร์ทโฟนประสิทธิภาพระดับกลาง |
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้สมาร์ทโฟนในระดับพื้นฐาน |
การใช้งาน |
ตอบโจทย์ทุกฟีเจอร์ ไม่ว่าจะเล่นเกมหนัก ๆ เน้นถ่ายรูปหรือวิดีโอ ฟังเพลง จดงาน สลับแอปไปมาก็ทำได้อย่างไหลลื่น มากกว่าคำว่าโปร |
เติมเต็มในเรื่องการทำงาน ไม่ว่าจะเป็น เล่นเกมหนัก ๆ ถ่ายรูประดับมืออาชีพ หรือจะใช้งานทั่วไปก็ไม่มีคำว่าช้า |
ครอบคลุมการใช้งานทั่วไป หรือเน้นโซเชียลเป็นหลัก เล่นเกมเล็กน้อย ถ่ายรูปทั่วไป |
ครอบคลุมการใช้งานในชีวิตประจำวันทั่วไป แบตเตอรี่อึด ใช้งานนานต่อเนื่อง เพราะการจัดการพลังที่ยอดเยี่ยม |
ชิปเซตที่แนะนำ |
- Snapdragon 8 Gen 2 - Snapdragon 8+ Gen1 |
- Snapdragon 778G |
- Snapdragon 695 |
- Snapdragon 4 Gen 1 |
สรุป Snapdragon มีกี่ซีรีส์ แล้วอยู่ในโทรศัพท์รุ่นไหนบ้าง
ชิปเซต Snapdragon จากค่าย Qualcomm ที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายมีด้วยกัน 3 ซีรีส์ ได้แก่ ซีรีส์ 8, ซีรีส์ 7, ซีรีส์ 6 ซึ่งชิปเซต Snapdragon ล่าสุดที่จัดได้ว่าเป็นชิปเซตเร็ว แรง ที่สุดในปัจจุบันคือ Snapdragon 8 Gen 2 โดยมีอยู่ในโทรศัพท์ Samsung S23 และ S23 Ultra สมาร์ทโฟนเรือธงที่พึ่งเปิดตัวล่าสุด นอกจากนี้ชิปสแนปดรากอนซีรีส์อื่น ๆ ยังถูกนำมาใส่ไว้ในโทรศัพท์ Samsung รุ่นดังต่อไปนี้
• Snapdragon 8 Series: Galaxy S23 | S23 Ultra, Galaxy S22 | S22 Ultra, Galaxy Z Fold4, Galaxy Z Flip4, Galaxy Z Fold3 5G, Galaxy Z Flip3 5G
• Snapdragon 7 Series: Galaxy A73 5G, Galaxy A52s 5G
• Snapdragon 6 Series: Galaxy A23 5G
โทรศัพท์ Samsung ที่มาพร้อมกับชิปเซตทรงพลังอย่าง Snapdragon จะทำให้คุณสนุกไปกับการท่องโลกโซเชียลแบบไม่มีสะดุด เล่นเกมอย่างลื่นไหล เพลิดเพลินกับการถ่ายรูปด้วยกล้องความละเอียดที่ต้องร้องว้าว รองรับทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต มอบความสุขให้คุณให้ทุก ๆ วัน