Explore

การซักผ้าถือเป็นอีกหนึ่ง งานบ้านที่คุณแม่ต้องทำทุกวัน ยิ่งโดยเฉพาะยุคโควิด 19 ด้วยแล้ว ยิ่งต้องคำนึงถึงเรื่องความสะอาดของเสื้อผ้าที่สวมใส่ ลองไปแอบสำรวจเครื่องซักผ้าเครื่องเก่าของคุณแม่ดูสิว่า ยังใช้งานได้ดีอยู่ไหม หรือ ลองมองหาเครื่องใหม่ที่ซักฉลาด สะอาดไวมาเซอร์ไพรส์แม่กันเถอะ

● ให้คุณแม่สบายใจหมดกังวลเรื่องความสะอาด ด้วยการเลือกเครื่องซักผ้าที่มี ระบบ Hygiene Steam ที่ปล่อยไอน้ำออกจากด้านล่างของถังซัก ทำให้เสื้อผ้าสะอาดปราศจากเชื้อโรค สามารถขจัดเชื้อแบคทีเรียได้ถึง 99.9% รวมถึงสารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ ด้วย**
● เปลี่ยนการซักผ้าด้วยเครื่องแสนวุ่นวายแบบเดิม ๆ ที่ต้องคอยกดปุ่มนั้น จิ้มปุ่มนี้ เป็นเครื่องซักผ้าที่ฉลาดสุดๆ ด้วย AI Control คอยจดจำรูปแบบการซัก และเสนอโปรแกรมการซักที่เหมาะสม ให้คุณแม่สามารถควบคุมการทำงานของเครื่องซักผ้าได้ง่าย ๆ ผ่านสมาร์ทโฟน หรือคุณลูกจะดาวน์โหลดแอป SmartThings* ไว้ในมือถือของตัวเองเพื่อช่วยคุณแม่ซักผ้าผ่านสมาร์ทโฟนก็ได้เช่นกัน

*อิงจากรายงานทดสอบขั้นตอนรักษาสุขอนามัยโดยใช้ไอน้ำของ Intertek ขจัดแบคทีเรียบางชนิดได้ถึง 99.9% เช่น Staphylococcus aureus และ Escherichia coli ผลลัพธ์ที่ได้แต่ละครั้งอาจแตกต่างกันไป
**อิงจากรายงานทดสอบขั้นตอนรักษาสุขอนามัยโดยใช้ไอน้ำของ The British Allergy Foundation (BAF) ขจัดสารก่อภูมิแพ้ที่เกิดจากไรฝุ่นในบ้านได้

● ในการเลือกหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ปัจจัยสำคัญที่ควรคำนึงถึงเป็นอันดับแรกคือเซ็นเซอร์ เพราะเป็นตัวกำหนดการทำงานของหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ไม่ว่าจะเป็นทิศทางในการทำความสะอาด หรือการปรับโหมดให้สอดคล้องกับการใช้งาน อย่าง เซ็นเซอร์ LiDAR ที่ช่วยให้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นสามารถคำนวณตำแหน่งของตัวเองได้อย่างแม่นยำ และปรับเส้นทางการทำความสะอาดได้เหมาะสม โดยที่คุณแม่ไม่ต้องคอยจับหุ่นยนต์ดูดฝุ่นเปลี่ยนทิศเพื่อให้ทำความสะอาดในจุดที่ต้องการ
● คุณแม่อาจเป็นกังวลว่าเจ้าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่เดินทำความสะอาดไปมาจะทำให้แจกันใบโปรดบนโต๊ะหล่นลงมาแตก หรืออาจต้องคอยยกของที่เปราะแตกง่ายหลบไปมา แต่ด้วย เทคโนโลยีการจดจำวัตถุแบบ Jet AI ที่สามารถระบุและจำแนกวัตถุกับเฟอร์นิเจอร์ประเภทต่าง ๆ พร้อมสร้างแผนที่ตำแหน่งสิ่งของเหล่านั้นได้ ทำให้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นเว้นระยะห่างจากวัตถุที่แตกง่าย และหลีกเลี่ยงการทำความสะอาดสิ่งที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่าง ๆ ให้คุณแม่สบายใจ คลายกังวลไปได้เลย
● ความจุของกล่องเก็บฝุ่นและสุขอนามัยก็สำคัญ เพราะหุ่นยนต์ดูดฝุ่นแต่ละรุ่น มีขนาดของกล่องเก็บฝุ่นไม่เท่ากัน ยิ่งกล่องเก็บฝุ่นเล็กเท่าไร คุณแม่ก็ยิ่งต้องคอยนำเศษขยะไปทิ้งบ่อย ๆ ดังนั้น จึงควรเลือกหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่มีกล่องเก็บฝุ่นขนาดใหญ่ หรือ เครื่องที่มี Clean Station ที่เป็นเสมือนแท่นพัก โดยหุ่นยนต์ดูดฝุ่นจะกลับไปยัง Clean Station โดยอัตโนมัติหลังจากทำความสะอาดเสร็จ จากนั้น Clean Station จะช่วยขจัดฝุ่นออก* ด้วยเทคโนโลยี Air Pulse และระบบกรองหลายชั้นที่ช่วยดักจับฝุ่นละเอียด** และสารก็ภูมิแพ้ต่าง ๆ ได้มากถึง 99.999% นอกจากนั้น คุณแม่ยังไม่ต้องคอยเทถังฝุ่นบ่อย ๆ เพราะถังเก็บฝุ่นสามารถเก็บฝุ่นได้ในปริมาณมาก แค่นำไปเททุก ๆ 1 -3 เดือนได้อย่างสะดวกสบายและถูกสุขอนามัย***


* ผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างกันไปในการใช้งานแต่ละครั้ง อาจมีฝุ่นและเส้นขนติดหลงเหลืออยู่ตรงตะแกรงเมื่อทำความสะอาดเพียงรอบเดียว
** อิงตามการทดสอบภายในด้วยโหมดการทำงานสูงสุดซึ่งเป็นไปตามมาตรฐาน IEC62885-2 Cl. 5.11 ผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างกันไปตามสภาพแวดล้อมจริงของบ้าน
*** อาจแตกต่างกันไปตามปริมาณฝุ่นในสภาพแวดล้อมจริงของบ้าน

● ประสิทธิภาพในการฟอกอากาศย่อมเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการเลือกซื้อ จึงควรเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีระบบกรองอากาศหรือไส้กรองตรงกับความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นระบบกรองอากาศที่ใช้การปล่อยประจุลบออกมาจับฝุ่นละอองหรืออนุภาคขนาดเล็กที่เป็นประจุบวกให้ตกลงสู่พื้น ไม่ฟุ้งกระจายในอากาศ หรือระบบกรองอากาศแบบ HEPA ที่สามารถดักจับอนุภาคที่มีขนาดเล็ก 0.3 ไมครอน หรืออาจเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีแผ่นกรองอากาศ 3 ชั้น ได้แก่ Pre-filter ที่จะดักจับฝุ่นขนาดใหญ่ และสามารถถอดล้างได้สะดวก ตามด้วยแผ่นกรอง Activated Carbon ที่ช่วยดูดซับก๊าซอันตรายต่างๆ และกลิ่นไม่พึงประสงค์ จบที่แผ่นกรอง HEPA กรองฝุ่นอนุภาคเล็กถึงขนาด PM0.3 ได้มากถึง 99.9%
● ค่า CADR หรือ ค่าตัวเลขที่ได้จากการวัดปริมาณอากาศที่ระบบฟอกอากาศสามารถทำความสะอาดอากาศที่ปนเปื้อนได้ในช่วงเวลา 1 นาทีก็สำคัญ ยิ่งตัวเลขมากเท่าใด แสดงว่าประสิทธิภาพการกรองก็ยิ่งดีขึ้นเท่านั้น ดังนั้นจึงควรเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีระบบ 3-Way Air Flow ที่ทำให้สามารถฟอกอากาศบริสุทธิ์ได้กว้างขึ้น และ รวดเร็วยิ่งขึ้น ด้วยช่องรับอากาศด้านหน้า และการกระจายอากาศบริสุทธิ์ 3 ทิศทางด้วยพลัง Dual Power Fan ทำให้สามารถสร้างอากาศบริสุทธิ์ได้เร็วถึง 701 ลบ.ม. ต่อชั่วโมง
● อีกหนึ่งปัจจัยที่ไม่ควรมองข้ามคือโหมดการทำงานที่สอดคล้องกับความต้องการใช้งาน เช่น เครื่องฟอกอากาศที่มี Auto Mode ที่จะคอยตรวจจับมลภาวะในบ้าน และปรับกำลังและความเร็วลมตามความเหมาะสม ทำให้คุณแม่ไม่ต้องคอยปรับเปลี่ยนโหมดของเครื่องฟอกอากาศบ่อย ๆ หรือ Sleep Mode ที่ปล่อยแรงลมนุ่มเงียบ และปิดไฟหน้าจอ ไม่ให้รบกวนการนอนหลับของคุณแม่

● เครื่องปรับอากาศถือเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานค่อนข้างมาก หากเปิดนาน ๆ อาจสิ้นเปลืองค่าไฟ จะเปิดใช้แต่ละครั้งอาจต้องคำนวณความคุ้มค่ากันอยู่นาน ดังนั้น หากอยากให้คุณแม่เย็นกาย และสบายกระเป๋าไปพร้อมกัน ก็ควรเลือกเครื่องปรับอากาศประหยัดไฟที่มีเทคโนโลยี WindFree™ Cooling ที่จะทำให้อุปกรณ์ที่อยู่ภายนอกตัวอาคารใช้พลังงานน้อยที่สุดเมื่อเปิดโหมด WindFree™ ช่วยให้ประหยัดไฟได้มากถึง 77%* โดยโหมดนี้จะทำงานคู่กับเซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว หากไม่มีการเคลื่อนไหวหลังจากผ่านไป 20 นาที เครื่องปรับอากาศจะปรับเป็นโหมด WindFree™ โดยอัตโนมัติ ช่วยให้คุณแม่ประหยัดเงินได้ยิ่งกว่า
● เรื่องความสะอาดของอากาศที่ปล่อยออกมาก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม จึงควรเลือกเครื่องปรับอากาศที่มีแผ่นกรองอากาศในตัว เพื่อป้องกันไม่ให้คุณแม่หายใจเอามลพิษอนุภาคขนาดเล็กเข้าไป เพิ่มพลังความมั่นใจด้วยไส้กรองที่เคลือบสารต้านแบคทีเรีย ที่จะช่วยป้องกันคุณแม่จากสารปนเปื้อนต่าง ๆ ในอากาศ ทำให้มั่นใจว่าอากาศที่รายล้อมคุณแม่บริสุทธิ์อย่างแท้จริง
● เมื่อใช้เครื่องปรับอากาศนานเข้า ปัญหาที่ทุกบ้านต้องเจอคือเรื่องการทำความสะอาดภายในเครื่องปรับอากาศ ไหนจะต้องลำบากหากช่าง หรือน้ำยาราคาแพงมาทำความสะอาด คุณสามารถลดปัญหาจุกจิกเหล่านี้ให้คุณแม่ได้ด้วยการหาเครื่องปรับอากาศที่ทำความสะอาดตัวเองได้โดยอัตโนมัติ หลังจากที่ทำงานเสร็จ ฟังก์ชันการทำความสะอาดอัตโนมัติจะทำให้ตัวแลกเปลี่ยนความร้อนแห้งได้ด้วยกระบวนการ 3 ขั้นตอน โดยไล่ความชื้นด้วยการเป่าลมเป็นเวลา 10 - 30 นาที ช่วยขจัดการก่อตัวของแบคทีเรียและกลิ่นเหม็น ให้คุณแม่รับอากาศสะอาดได้เต็มปอด

* ทดสอบกับรุ่น AR07T9170HA3 อิงตามการใช้พลังงานของโหมด Fast Cooling กับ WindFree™ Cooling

● หากคุณแม่เป็นสายเก็บความทรงจำผ่านภาพถ่ายสวย ๆ ก็ควรเลือกสมาร์ทโฟนที่ถ่ายภาพสวยได้ดั่งใจ เก็บภาพครบทุกรูปแบบ
- กล้องหลักมาพร้อมกับ OIS (Optical Image Stabilization) ที่จะช่วยให้คุณแม่ถ่ายวิดีโอได้ราบรื่นและภาพคมชัด แม้จะอยู่ในสถานที่ที่มีแสงน้อย
- เก็บภาพมุมกว้างก็สามารถทำได้ด้วย Ultra Wide Camera ถ่ายรูปวิวกว้าง ๆ ได้สบาย
- แต่ถ้าคุณแม่อยากถ่ายรูปดอกไม้สวย ๆ ไว้สวัสดีตอนเช้า ก็ถ่ายภาพระยะใกล้ได้ด้วย Macro Camera
- ถ้าคุณแม่ชอบถ่ายภาพสมาชิกในครอบครัวเก็บไว้เป็นความทรงจำก็สามารถทำได้ด้วย Depth Camera ขนาด 2MP ที่ช่วยปรับหน้าชัดหลังเบลอ ให้ภาพบุคคลยิ่งโดดเด่น
- ถ่ายเสร็จแล้วไม่ต้องกัลวัลเรื่องเมมฯ เต็ม พื้นที่จัดเก็บไม่เพียงพอ เพราะมีพื้นที่จัดเก็บภายในได้อย่างจุใจ และสามารถเพิ่มพื้นที่ได้ด้วย MicroSD Card ขนาด 1TB
● สำหรับคุณแม่สายโซเชียล ไม่ว่าจะแชท อ่าน ดูวิดีโอ ต้องจอใหญ่ไว้ก่อน! จอกว้าง และความละเอียดสูงยิ่งทำให้คุณแม่ใช้งานได้ง่าย
● อีกหนึ่งปัจจัยที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือความอึดของแบตเตอรี่ เพื่อให้คุณแม่สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องกังวลเรื่องแบตฯ หมดเร็ว และไม่ต้องพกที่ชาร์จให้ยุ่งยาก จึงควรเลือกสมาร์ทโฟนที่แบตเตอรี่ใหญ่ และชาร์จได้ไว จะได้ใช้งานได้ยาว ๆ ตลอดทั้งวัน