เพื่อคุณภาพชีวิต

วิธีเลือกตู้เย็นเครื่องใหม่ให้ตอบโจทย์ของคุณและครอบครัว

เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทุกบ้านต้องมีอย่างตู้เย็นซึ่งเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องเสียบปลั๊กอยู่ตลอดเวลา มีการใช้งานทุกวัน จะเลือกซื้อทั้งทีต้องเลือกที่ใช้งานได้นาน คุ้มค่า คุ้มเงินที่จ่ายไป และนี่คือ 4 ข้อควรรู้ช่วยให้เลือกตู้เย็นได้ง่ายและโดนใจมากขึ้น

Family Hub
ผู้ช่วยประจำบ้าน เก็บรักษาอาหารให้สดใหม่
ดูช่องแช่ผ่านหน้าจอวางแผนได้ทุกมื้ออร่อย

1. เลือกตู้เย็นที่ประหยัดไฟ

สิ่งแรกที่ควรพิจารณา ไม่ว่าจะซื้อตู้เย็นยี่ห้อไหนก็ตาม คือ “ความประหยัดไฟ” เพื่อประหยัดเงินในกระเป๋าง่ายที่สุดคือเลือกซื้อตู้เย็นที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 นอกจากนี้การดูแลรักษาตู้เย็นอย่างถูกต้อง ด้วยวิธีง่ายๆต่อไปนี้ ก็จะช่วยประหยัดไฟได้เพิ่มขึ้นอีก

- หมั่นทำความสะอาด และตรวจเช็กสภาพขอบยางประตูตู้เย็น
เพราะเมื่อยางประตูตู้เย็นเริ่มหลวม ส่งผลให้ตู้เย็นต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อรักษาอุณหภูมิให้เย็นตามที่เราตั้งไว้
- แช่ของไม่มากหรือน้อยเกินไป
แม้จะไม่มีอะไรให้ใส่ก็ควรหาขวดน้ำมาแช่ไว้ เพราะถ้าตู้เย็นโล่งมาก เวลาเราเปิดตู้เย็น อากาศข้างนอกที่มีความร้อนจะเข้าไปในตู้เย็นได้เต็ม ๆ ทำให้ตู้เย็นต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อปรับอุณหภูมิให้กลับมาเย็นเหมือนเดิม และการแช่ของไว้จนแน่น ล้น ก็ทำให้ตู้เย็นทำงานหนักเช่นกัน
- แผงระบายความร้อน
จุดเล็ก ๆ ที่มักถูกมองข้าม แผงระบายความร้อน หรือ Condenser Coils ที่อยู่ด้านหลัง หรือด้านใต้ของตู้เย็น หากปล่อยให้มีฝุ่นหนา จะทำให้ตู้เย็นทำงานหนักขึ้น แนะนำให้ถอดปลั๊ก แล้วนำแปรงมาปัด หรือใช้เครื่องดูดฝุ่นมาทำความสะอาด ประมาณปีละ 1 - 2 ครั้ง
- ตั้งอุณหภูมิให้เหมาะสม
ควรตั้งอุณหภูมิประมาณ 0 - 4 องศาเซลเซียส สำหรับช่องแช่เย็น และช่องแช่แข็งควรให้ปรับอุณหภูมิให้ต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส หรือบางรุ่นอาจจะเป็นตัวเลข 1 - 5 หรือ 1 - 9 ควรปรับให้อยู่ระดับกลาง ๆ หรือทดลองปรับทีละเบอร์จนได้ความเย็นที่พอเหมาะ
- ไม่เปิดตู้เย็นบ่อย ๆ หรือเปิดแช่ไว้
หลายคนอาจจะเคยโดนดุ เพราะเปิดตู้เย็นบ่อยเกินไป ไม่รู้จะหยิบอะไรก็ติดนิสัยชอบเปิดตู้เย็น การเปิดตู้เย็นบ่อย ๆ หรือครั้งละนาน ๆ ทำให้อากาศภายนอกเข้าไปแทนที่ข้างใน ทำให้ตู้เย็นต้องทำงานหนักขึ้น

แต่หากใครเลิกนิสัยชอบเปิด ชอบส่องหาของในตู้เย็นไม่ได้ ลองเลือกตู้เย็นที่มีลูกเล่นการดูของโดยไม่ต้องเปิดตู้ อย่างSamsung Family Hub™ ที่มีสมาร์ทฟังก์ชันอย่าง View Inside ให้คุณสามารถสำรวจอาหารภายในตู้เย็นว่ามีอะไรเหลืออยู่บ้าง จากทุกที่ ทุกเวลา ผ่านสมาร์ทโฟนของคุณหรือหน้าจอหลักได้ง่าย ๆ แบบไม่เปลืองไฟ อีกทั้งยังให้คุณสามารถเลือกซื้อของเข้าครัวได้ตรงตามความต้องการ จะอยู่ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตหรือที่ไหน ๆ ก็เช็กได้ตลอดว่ามีอะไรเหลืออยู่ในตู้เย็นของคุณบ้าง จะได้เลือกซื้อวัตถุดิบได้พอดีกับความต้องการ ไม่ขาด ไม่เกิน แถมหน้าจอบนตู้เย็นนั้นยังช่วยให้คุณเพลิดเพลินไปกับคอนเทนต์ต่างๆ เช่น ดูวิดีโอ* หรือฟังเพลง ได้อีกด้วย คุ้มในคุ้มไปเลย

* คุณลักษณะและคอนเทนต์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ

2. เลือกขนาดความจุตู้เย็นกับสมาชิกในบ้านต้องสัมพันธ์กัน

ตู้เย็นจะมีหน่วยวัดเป็น ‘คิว’ หรือ ‘ลูกบาศก์ฟุต’ คิดคร่าว ๆ ก็คือ 2.5 คิวขึ้นไป เหมาะสำหรับ 2 คน ถ้าอยู่กัน 3 - 4 คน ควรเลือกตู้เย็นที่มีขนาด 12 คิวขึ้นไป กรณีคุณมีครอบครัวใหญ่ 5 คนขึ้นไป ควรเลือกตู้เย็นขนาด 15 คิวขึ้นไป หรือถ้าตอนนี้คุณยังไม่แน่ใจว่าคุณต้องการตู้เย็นขนาดเท่าใดกันแน่ ลองดูตู้เย็นรุ่น Bespoke ให้คุณได้ดีไซน์ตู้เย็นเอง นอกจากจะสามารถปรับเปลี่ยนสีให้เข้ากับบ้านของคุณได้แล้ว คุณยังสามารถดีไซน์การใช้งานของและเพิ่มจำนวนของตู้เย็นได้ภายหลัง

BESPOKE
ตู้เย็นปรับได้ตามไลฟ์สไตล์คุณ
ดีไซน์ที่เหมาะกับห้องครัวสมัยใหม่

3 เลือกดีไซน์ที่ลงตัวกับไลฟ์สไตล์

ถึงรูปทรงตู้เย็นอาจจะคล้าย ๆ กัน แต่ดีเทลอื่น ๆ อย่างสีสัน จำนวนประตู หรือพื้นสัมผัสมีความแตกต่าง จะซื้อตู้เย็นเครื่องใหม่ไม่ว่าจะยี่ห้อไหนก็ตาม อีกสิ่งสำคัญที่ควรต้องพิจารณาคือดีไซน์ สี เพื่อให้เข้ากับห้องครัวของคุณ ลงทุนแล้วอย่าให้ดีไซน์ต้องทำให้คุณขัดใจ ใช้ไป 3 ปี 5 ปีก็ยังดูดี อย่างตู้เย็นรุ่น Bespoke ที่ให้คุณเลือกสี ขนาด ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณได้ตามชอบ วางไว้ห้องไหนก็สวยงามลงตัว สามารถเลือกจำนวนของบานประตูให้เหมาะสมกับการใช้งานของสมาชิกในบ้าน ให้คุณเก็บของได้อย่างมีระเบียบ และเป็นสัดส่วนมากขึ้น ไม่ใช่แค่ดีไซน์ภายนอกเท่านั้น ภายในก็แบ่งสัดส่วนได้อย่างเหมาะสม ช่องเก็บค้นหาอาหารได้ง่ายดาย ด้วยชั้นวางและลิ้นชักแบบโปร่งใส มองเห็นทุกซอกทุกมุม ตอบโจทย์กับการใช้งานของทุกคนในครอบครัว

4 เลือกฟีเจอร์ตู้เย็นดีมีชัย

เพราะแค่ความเย็นอย่างเดียวจากตู้เย็นอาจไม่พอ ความพิเศษต่าง ๆ ของฟังก์ชันในการเลือกซื้อตู้เย็นแต่ละยี่ห้อจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้คุณเลือกตู้เย็นง่ายขึ้นอย่างเช่น ระบบการปรับเปลี่ยนอุณหภูมิจากแช่แข็ง เป็นแช่เย็นได้ทันที

ฟังก์ชันที่ช่วยเรื่องความเย็นอย่าง ระบบTwin Cooling Plus™ให้ความเย็นแต่ละส่วนแยกกัน ช่วยยับยั้งไม่ให้กลิ่นระหว่างของคาวของหวานมาปะปนกัน ทำให้รักษารสชาติดั้งเดิมของอาหารแช่แข็งไว้ได้ดียิ่งขึ้น

อีกฟังก์ชันที่ดีต่อสุขภาพของคุณ อย่างระบบ Anti-Bacterial Protector ที่ให้ตู้เย็นสะอาด และถูกสุขอนามัยอยู่เสมอ อากาศถูกส่งผ่านแผ่นกรอง Activated Carbon ฆ่าเชื้อ และขจัดกลิ่นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ตาข่ายป้องกันแบคทีเรียจะช่วยขจัดเชื้อแบคทีเรีย เทคโนโลยีเหล่านี้จะช่วยให้ชีวิตของคุณสะดวก สบาย และยังดีต่อสุขภาพของคุณ

ถ้าอ่านบทความจบแล้ว ยังลังเลว่าจะ “เลือกตู้เย็นแบบไหนดี?”
มารับคำแนะนำง่ายๆ ช่วยให้คุณเลือกได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น ไปดูกันได้ที่ คำแนะนำ “วิธีเลือกตู้เย็น”

อ่านเรื่องราวเหล่านี้ในครั้งต่อไป