เพื่อคุณภาพชีวิต

วิธีจัดโต๊ะทำงานให้ห่างไกลจากอาการออฟฟิศซินโดรมและเชื้อโรค

ตอนนี้หลายคนอาจเริ่มกลับไปทำงานที่ออฟฟิศกันบ้างแล้ว ในขณะที่บางคนยังต้อง Work from home กันต่อแบบยาว ๆ แต่ไม่ว่าจะทำงานที่ไหนก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เราใช้เวลาส่วนใหญ่หลายชั่วโมงไปกับการนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานจนเกิดอาการที่เรียกว่า “ออฟฟิศซินโดรม” ไปตาม ๆ กัน แต่กระนั้น เราก็สามารถหลีกเลี่ยงอากาศออฟฟิศซินโดรมได้ด้วยการจัดสภาพแวดล้อมการทำงานให้เหมาะสม
เราจึงขอแนะนำ “วิธีการจัดโต๊ะคอม หรือโต๊ะทำงานให้ถูกหลักสรีรศาสตร์”

1. เลือกโต๊ะทำงานให้เหมาะสมกับสรีระ

การเลือกโต๊ะทำงาน ควรเลือกที่มีความสูงพอเหมาะ ไม่สูงหรือต่ำจนเกินไป เพราะหากเลือกโต๊ะที่มีความสูงมากเกินไป อาจทำให้ปวดแขนและไหล่ แต่หากเลือกโต๊ะที่เตี้ยจนเกินไป ก็จะทำให้ปวดคอและหลังได้เช่นกัน
สำหรับใครที่จำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์ในการทำงาน สามารถจัดโต๊ะคอมง่าย ๆ โดยตั้งให้ขอบบนของหน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่ในระดับเดียวกันกับสายตา โดยระยะห่างระหว่างหน้าจอถึงดวงตา ควรอยู่ระหว่าง 0.4 - 0.5 เมตร หรือควรตั้งห่างจากตัวประมาณ 1 ช่วงแขน ส่วนเม้าส์และคีย์บอร์ดควรอยู่ต่ำลงมาเล็กน้อย เพื่อจะได้ไม่ให้ต้องยกไหล่ ป้องกันการเกร็งของกล้ามเนื้อขณะใช้งาน

2. เก้าอี้ก็มีส่วนสำคัญไม่แพ้กัน

เมื่อเลือกโต๊ะที่ชอบแล้ว ก็ถึงเวลาเลือกเก้าอี้ที่ใช่ เพราะเราใช้เวลานั่งอยู่บนเก้าอี้วันละหลายชั่วโมง ดังนั้น การเลือกเก้าอี้ควรเลือกที่นั่งสบายที่สุด หรือถ้าจะให้ดี ความเลือกใช้เก้าอี้ Ergonomics หรือเก้าอี้ที่ออกแบบมาถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์ เพราะสามารถช่วยลดความเมื่อยล้าบริเวณหัวไหล่ แผ่นหลัง และกระดูกสันหลังได้
ส่วนเรื่องความสูงของเก้าอี้ ควรเลือกเก้าอี้ที่เมื่อนั่งแล้วขาต้องทำมุมอย่างน้อย 90 องศา และต้องสามารถวางฝ่าเท้าบนพื้นได้แบบเต็มเท้า หรือถ้าหากขาไม่ถึงพื้น ควรหาเก้าอี้ตัวเล็ก ๆ มาวางเท้า บริเวณพนักพิงของเก้าอี้จะต้องรับกับแผ่นหลัง ที่วางแขนก็ควรมีระดับความสูงพอเหมาะ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการปวดข้อมือและแขนขณะใช้งานคอมพิวเตอร์

3. แสงสว่างมีผลต่อดวงตาและอารมณ์

เป็นที่รู้กันดีว่า แสงสว่างนั้นส่งผลโดยตรงต่อดวงตา เพราะหากในห้องทำงานมีแสงสว่างน้อยเกินไป จะทำให้กล้ามเนื้อตาทำงานหนัก เป็นผลให้รู้สึกปวดตาและมึนศีรษะ แต่หากห้องทำงานสว่างมากจนเกินไปก็อาจทำให้ปวดตา มึนศีรษะ กล้ามเนื้อหนังตากระตุก และรู้สึกวิงเวียนได้เช่นกัน นอกจากนั้น แสงสว่างยังส่งผลต่ออารมณ์ในการทำงานค่อนข้างมาก เพราะการทำงานในห้องที่มีแสงสว่างไม่เพียงพออาจทำให้รู้สึกเบื่อหน่ายและอ่อนเพลียได้
ดังนั้นจึงควรปรับแสงสว่างภายในห้องทำงานให้เหมาะสม และหากจะเลือกโคมไฟตั้งบนโต๊ะทำงาน ก็ควรเลือกโคมไฟที่สามารถปรับระดับ และเคลื่อนย้ายได้สะดวก โดยไม่วางโคมไฟส่องเข้าไปที่จอคอมพิวเตอร์โดยตรง เพราะจะทำให้ตาล้า และส่งผลเสียต่อดวงตาได้

4. ปรับท่านั่งให้ถูกหลัก

หลังจากปรับปรุงเปลี่ยนแปลงปัจจัยภายในอย่างโต๊ะ เก้าอี้ และแสงสว่างแล้ว ก็ถึงเวลากลับมาโฟกัสที่ท่าทางในการนั่งทำงาน ที่ดูจะเป็นปัจจัยหลักของโรคออฟฟิศซินโดรม

ศีรษะและคอ: ศีรษะและคอควรตั้งตรง หรืออาจก้มเล็กน้อย โดยทำมุม 10 - 15 องศา ให้สายตาขนานกับพื้น คอจะต้องไม่เอียงหรือโน้มไปด้านใดด้านหนึ่ง
หลัง: ควรนั่งหลังตรงชิดติดกับพนักพิงของเก้าอี้ ไม่นั่งงอหลังหรือแอ่นหลังจนมากเกินไป
แขนและข้อศอก: แขนและข้อศอกควรวางไว้บริเวณที่พักแขนที่มีระดับความสูงเหมาะสม โดยให้แขนและข้อศอกทำมุม 90 องศา และอยู่ในแนวเส้นตรง
ขาและเท้า : ควรนั่งให้ข้อพับเข่าแนบชิดกับเบาะรองนั่ง ขาต้องทำมุมอย่างน้อย 90 องศา โดยให้เท้าวางราบกับพื้นหรือที่รองเท้าแบบเต็มฝ่าเท้า

เมื่อจัดโต๊ะคอมโต๊ะทำงานถูกหลักแล้ว ก็อย่าลืมรักษาความสะอาดของพื้นที่ทำงานด้วย “5 เคล็ดลับการทำความสะอาดโต๊ะทำงาน” ให้ปราศจากเชื้อโรคในยุคที่เชื้อไวรัส COVID-19 หลากหลายสายพันธุ์ยังคงระบาดอย่างต่อเนื่อง

1. เริ่มต้นเคลียร์ของออกจากโต๊ะ
ก่อนจะลงมือทำความสะอาด จัดโต๊ะคอม โต๊ะทำงานให้สะอาดเอี่ยม ควรเริ่มต้นด้วยการเคลียร์ข้าวของออกจากโต๊ะเสียก่อน โดยหากล่องมาเก็บสิ่งของต่าง ๆ ให้เป็นหมวดหมู่ เพื่อให้ง่ายต่อการเก็บเข้าที่เดิมหลังทำความสะอาดเสร็จ นอกจากนั้น การคัดแยกสิ่งของ จะช่วยให้คุณสามารถพิจารณาทิ้งสิ่งของที่ไม่จำเป็นได้ง่ายขึ้น เพราะยิ่งของเยอะเท่าไร ก็ยิ่งมีแหล่งกักเก็บฝุ่นและเชื้อโรคมากเท่านั้น

2. เก็บกวาดขยะและปัดฝุ่นออกจากโต๊ะ
หลายคนพอเปิดลิ้นชักโต๊ะทำงานออกมาอาจผงะกับขยะที่กองสุมไว้ไม่ได้ทำความสะอาด ถ้าอย่างนั้นก็เริ่มต้นเก็บกวาดจากขยะที่ทำให้โต๊ะทำงานรกรุงรังไม่น่านั่ง จากนั้นจึงนำผ้าไมโครไฟเบอร์มาเช็ดฝุ่นบนโต๊ะทำงานและหน้าจอคอมพิวเตอร์ออก โดยหลีกเลี่ยงการใช้ไม้ขนไก่ เพราะจะทำให้ฝุ่นยิ่งฟุ้งกระจาย

3. ทำความสะอาดเม้าส์ คีย์บอร์ด และคอมพิวเตอร์
รู้หรือไม่ว่าบนโต๊ะทำงาน มีแบคทีเรียมากกว่า 10 ล้านตัวซ่อนแฝงอยู่ โดย 7,500 ตัวอยู่ในคีย์บอร์ดที่เราใช้อยู่ทุกวัน นอกจากคีย์บอร์ดแล้ว เม้าส์ แผ่นรองเม้าส์ และหูฟัง ก็เป็นอุปกรณ์การทำงานที่กลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรค เพราะเป็นอุปกรณ์ที่เราสัมผัสแทบจะตลอดการทำงาน ดังนั้น หากคุณไม่ล้างมือให้สะอาด เชื้อโรคก็ย่อมซุกซ่อนอยู่แน่นอน

ถ้าอย่างนั้น เรามาเริ่มต้นด้วยการทำความสะอาดคีย์บอร์ด โดยคว่ำแป้นคีย์บอร์ดให้ด้านหน้าบริเวณแป้นพิมพ์หันลงไปที่ขยะ แล้วจึงใช้มือตบเบา ๆ ให้ฝุ่นผงหลุดออก จากนั้นใช้สำลี หรือคอตตอนบัดชุบน้ำยาทำความสะอาด หรือแอลกอฮอล์ เช็ดถูบริเวณแป้นตัวอักษรและตามซอก ส่วนหูฟัง เม้าส์ และแผ่นรองเม้าส์ ให้ใช้สำลี หรือทิชชู่ชุบแอลกอฮอล์เช็ดให้ทั่วทุกด้าน รวมถึงบริเวณสายเม้าส์และสายหูฟังด้วย
ส่วนเครื่องคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นแบบตั้งโต๊ะหรือแล็ปท็อป ให้ใช้น้ำยาสูตรทำความสะอาดคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะ เพราะบางชิ้นส่วนของคอมพิวเตอร์อย่างหน้าจออาจมีความไวต่อสารเคมีบางชนิด และหากเป็นหน้าจอแบบทัชสกรีนที่เราสัมผัสอยู่ตลอด ควรเลือกน้ำยาที่มีส่วนผสมของสารฆ่าเชื้อโรคด้วย

4. ฆ่าเชื้อทุกซอกทุกมุม
หลังจากจัดการกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เสร็จแล้วก็ถึงเวลาทำความสะอาดเก้าอี้ โต๊ะทำงาน และอุปกรณ์สำนักงานอื่น ๆ โดยเลือกใช้สารฆ่าเชื้อโรคให้เหมาะกับพื้นผิว

บริเวณโต๊ะทำงาน ให้ใช้ผ้าชุบน้ำยาฆ่าเชื้อโรค หรือแอลกอฮอล์ 70% เช็ดให้ทั่วทุกซอกทุกมุม โดยเน้นจุดที่สัมผัสบ่อย แล้วอย่าลืมเช็ดโทรศัพท์ตั้งโต๊ะด้วยนะ นอกจากโต๊ะแล้ว เก้าอี้ก็เป็นจุดสะสมเชื้อโรคมหาศาลเช่นกัน ดังนั้น เราจึงต้องทำความสะอาดเก้าอี้ด้วย หากเก้าอี้เป็นโพลิเอสเตอร์หรือไวนิล คุณก็สามารถใช้น้ำสบู่เช็ดทำความสะอาดได้ ส่วนเบาะรองนั่งและหมอนอิง ควรหมั่นนำไปซักบ่อย ๆ หรือฉีดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค หรือสเปรย์แอลกอฮอล์เป็นประจำของใช้สำนักงานอื่น ๆ อย่างปากกา ดินสอที่เราสัมผัสอยู่เรื่อย ๆ ก็อาจกลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคได้เช่นกัน จึงต้องหมั่นเช็ดทำความสะอาดด้วยผ้าชุบแอลกอฮอล์ 70% เมื่อเช็ดเสร็จแล้วควรปล่อยให้สารทำความสะอาดหรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรคแห้งสนิทก่อน จากนั้นเช็ดด้วยผ้าแห้งอีกครั้งแล้วจึงจัดเก็บอุปกรณ์ต่าง ๆ เข้าที่เดิม

5. หมั่นล้างมือให้สะอาด
การล้างมือให้สะอาดเป็นเสมือนปราการด่านแรกในการรักษาพื้นที่โต๊ะทำงานให้สะอาดปราศจากเชื้อโรค
เพราะในแต่ละวันเราใช้มือ สัมผัสสิ่งต่าง ๆ มากมาย หากไม่ล้างมือก่อนหยิบจับสิ่งของบนโต๊ะทำงาน เชื้อโรคต่าง ๆ อาจติดกับข้าวของเครื่องใช้บนโต๊ะและหมักหมมจนโต๊ะทำงานกลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรค ดังนั้น ก่อนจะกลับมานั่งทำงานที่โต๊ะ จึงควรล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่ หรืออาจวางสเปรย์หรือเจลแอลกอฮอล์ติดไว้ที่โต๊ะ เพื่อความสะดวกต่อการหยิบใช้ทำความสะอาดมือแบบฉุกเฉิน เวลาที่จำเป็นจะต้องใช้โต๊ะทำงานแบบกระทันหัน แต่ไม่ทันได้ล้างมือ


ไม่ว่าจะ Work from home หรือทำงานจากที่ไหน เพียงแค่นำเคล็ดลับเหล่านี้ไปปรับใช้คุณก็สามารถจัดโต๊ะคอม หรือโต๊ะทำงานได้ถูกหลักสรีรศาสตร์และปราศจากเชื้อโรค เพื่อสุขภาพกายที่ดีในระยะยาวของคุณ และเมื่อสุขภาพกายดีแล้ว ประสิทธิภาพในการทำงานก็ย่อมเพิ่มพูนตามไปด้วยอย่างแน่นอน

อ่านเรื่องราวเหล่านี้ในครั้งต่อไป