ปกติแล้ว การซักผ้าจะต้องใช้น้ำและไฟฟ้าจำนวนมาก โดยการเลือกเครื่องซักผ้าที่มีอัตราการประหยัดพลังงานสูง จะเข้ามาช่วยประหยัดค่าน้ำและค่าไฟให้คุณอย่างมาก
อะไรเป็นสิ่งที่ทำให้เครื่องซักผ้าประหยัดพลังงาน
การประหยัดพลังงานเป็นการลดการใช้พลังงาน ตั้งแต่อุณหภูมิของน้ำจนถึงปริมาณน้ำที่ใช้ต่อการซักหนึ่งครั้ง ไฟฟ้าส่วนใหญ่ที่ใช้โดยเครื่องซักผ้าจะใช้เพื่อทำให้น้ำร้อนขึ้น ดังนั้นเครื่องที่ใช้พลังงานน้อยกว่าโดยการซักผ้าที่อุณหภูมิต่ำกว่าจึงถือว่าประหยัดพลังงานมากกว่า ไม่เพียงเท่านั้น หลายๆ แห่งยังมีระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับขนาดของน้ำหนักของถังและปรับปริมาณน้ำที่ต้องการ ซึ่งช่วยประหยัดทั้งน้ำและไฟฟ้า เนื่องจากการใช้น้ำน้อยนั้นจะหมายความว่าน้ำจะถูกทำให้ร้อนน้อยลง สิ่งสำคัญคือต้องมองหาคุณสมบัติเหล่านี้เมื่อคุณค้นหาตัวช่วยประหยัดพลังงานที่สมบูรณ์แบบ เพราะนี่คือวิธีที่คุณสามารถประหยัดพลังงานขณะที่กำลังซักเสื้อผ้าได้
มาดูครื่องซักผ้ามาตรฐานสูงที่สุด
ว่าแต่การหาเครื่องซักผ้าประหยัดพลังงานจะดูยุ่งยากไปหรือเปล่านะ? วิธีง่ายที่สุดในการค้นหาเครื่องซักผ้าประหยัดพลังงานคือการมองหาเครื่องซักผ้าที่มีระดับพลังงานที่ดี และเครื่องซักผ้าที่มีระดับพลังงานที่ดีคือเครื่องซักผ้าที่มีมาตรฐานสูงที่สุด โดยการซื้อเครื่องซักผ้ามาตรฐานสูงที่สุด หมายความว่าคุณจะได้เครื่องที่ประหยัดพลังงานที่สุด ดูและเลือกซื้ออุปกรณ์ประหยัดพลังงานที่เป็นนวัตกรรมล่าสุดของเรา
อะไรคือสิ่งที่ทำให้เครื่องซักผ้าของ Samsung ประหยัดพลังงาน
SmartThings™
ด้วยแอป SmartThings™ คุณสามารถตั้งเวลาให้เครื่องซักผ้าเริ่มทำงานในช่วงที่มีอัตราการใช้พลังงานที่น้อยที่สุด และรับข้อมูลล่าสุดโดยละเอียดเกี่ยวกับการใช้พลังงานในบ้านของคุณ คุณยังสามารถเลือกรอบการซักที่ประหยัดพลังงาน เช่น โหมดพลังงาน AI เพื่อลดการใช้พลังงานได้ถึง 70%1 ไม่ว่าขณะคุณนั่งชิว หรือแม้แต่ในขณะที่คุณไม่อยู่
AI ecobubble™
เทคโนโลยี AI Ecobubble ทำให้การซักผ้าเป็นเรื่องที่น่าเบื่อน้อยลง ระบบจะใช้อากาศ น้ำ และน้ำยาซักผ้า ทำให้เกิดฟองอากาศ ซึ่งจะขจัดคราบสกปรกได้มากขึ้น 24%2 แม้ซักในอุณหภูมิต่ำ อีกทั้งยังประหยัดพลังงานได้มากถึง 70% ช่วยลดค่าไฟเนื่องจากการซักเสื้อผ้าในน้ำเย็นช่วยประหยัดพลังงานมากกว่าน้ำอุ่นนั่นเอง
AI Wash
AI Wash จะเข้ามาซักผ้าในน้ำสะอาด 3 แต่ใช้น้ำและน้ำยาซักผ้าที่น้อยลง4 โดยจะมีการตรวจจับขั้นสูงเพื่อวัดน้ำหนักและความนุ่มของเนื้อผ้า และตรวจสอบระดับความสกปรกอย่างต่อเนื่อง จากนั้นจะปรับน้ำและน้ำยาซักผ้าและเวลาในการแช่ ล้าง และปั่นให้เหมาะสมได้อย่างอัจฉริยะ
OceanCare™ Wash
คุณกำลังมองหาแผ่นกรองไมโครไฟเบอร์สำหรับเครื่องซักผ้าหรือเปล่า? Samsung, Ocean Wise Plastics Lab และ Patagonia กำลังร่วมกันค้นหาวิธีแก้ปัญหาการหลุดของไมโครไฟเบอร์ โดยรอบการซักที่ออกแบบมาเป็นพิเศษของ Samsung จะช่วยลดการปล่อยไมโครฟลีซได้มากถึง 54%5
เครื่องซักผ้ามาตรฐานสูงที่สุด คืออะไร และคุณสามารถอ่านฉลากประหยัดพลังงานใหม่ได้อย่างไร
ฉลากประหยัดพลังงานของเครื่องซักผ้ามีเอาไว้เพื่อให้คุณทราบระดับประสิทธิภาพการใช้พลังงานก่อนคุณจะตัดสินใจซื้อเครื่องซักผ้าที่ประหยัดพลังงานที่สุดคือระดับเบอร์ 5, 3 ดาว ระดับน้อยสุดคือระดับเบอร์ 5
ต้องการลดการใช้พลังงานของคุณหรือไม่
คุณมีเครื่องซักผ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอยู่แล้วใช่มั้ย? ถ้าอยากประหยัดพลังงานมากขึ้น มาลองอ่านวิธีการด้านล่างกัน
ตรวจสอบช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการซักผ้า
รู้มั้ยว่าค่าไฟฟ้าถูกสุดเมื่อไหร่? ใช้มิเตอร์แบบ dual-rate หรือสมาร์ทมิเตอร์เพื่อตรวจสอบการใช้พลังงานของคุณและหาเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการใช้เครื่องซักผ้า โดยส่วนมากอัตราค่าไฟฟ้าจะสูงขึ้นเมื่อใช้งานในช่วงเวลาเร่งด่วน ดังนั้นเราแนะนำให้คุณซักผ้าช่วง 22.00 น. - 08.00 น. เพราะนั่นคือช่วงเวลาที่ถูกที่สุดในการใช้ไฟฟ้า ลองซักเวลานั้นดูเพื่อจะช่วยลดค่าไฟของคุณได้!
ใช้น้ำเย็นในการซักผ้าที่มีคราบสกปรกไม่เยอะ
คุณรู้หรือไม่ว่าการซักผ้าในน้ำร้อนนั้นใช้พลังงานมากกว่าน้ำเย็น นี่คือวิธีการใช้ไฟฟ้าให้น้อยลง: หากเสื้อผ้าของคุณเปื้อนเพียงเล็กน้อย ให้ใช้โอกาสนี้ในการประหยัดพลังงานด้วยการซักผ้าในอุณหภูมิน้ำเย็น ด้วยเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรม เช่น AI Ecobubble™ คุณจะวางใจได้ว่าผ้าของคุณจะสะอาด สดชื่น และประหยัดพลังงานได้มากถึง 70%1
ซักทีเดียวเยอะๆ ลดจำนวนการซักผ้าในแต่ละสัปดาห์
แทนที่จะซักผ้าทีละน้อยๆ หลายๆ ชิ้นตลอดทั้งสัปดาห์ ลองเก็บไว้ซักทีเดียวพร้อมกันทั้งหมดเพื่อประหยัดพลังงานและน้ำดูสิ (ประหยัดเวลาด้วยนะ) เครื่องซักผ้าของคุณใช้พลังงานในปริมาณที่ใกล้เคียงกันในทุกๆ รอบ ดังนั้นการลดจำนวนครั้งที่ซักในแต่ละสัปดาห์จะช่วยได้มาก แถมยังทำงานน้อยลงอีกด้วย!
ใช้ความเร็วในการปั่นแบบรอบสูงเพื่อลดเวลาการอบผ้า
ทำไมถึงต้องตั้งโปรแกรมปั่นรอบสูงน่ะเหรอ? เพราะความเร็วในการปั่นหมาดที่สูงขึ้นหมายความว่าความชื้นจะถูกขจัดออกไปมากขึ้น และผ้าของคุณจะเปียกน้อยลงเมื่อต้องนำไปยังเครื่องอบผ้า ยิ่งผ้าของคุณเปียกน้อยลง เครื่องอบผ้าก็จะใช้พลังงานน้อยลงในการทำให้เสื้อผ้าของคุณแห้งสนิท และเวลาที่ผ้าของคุณใช้ในเครื่องอบผ้าแบบประหยัดพลังงานก็จะน้อยลงไปด้วย
