ตรวจสอบฟังก์ชั่นและส่วนที่จะต้องทำความสะอาดในเครื่องซักผ้าฝาหน้า
การบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เครื่องทำงานได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้ยังช่วยให้ผ้าที่ซักปราศจากกลิ่นอับและเชื้อแบคทีเรีย อ่านคำแนะนำด้านล่างนี้สำหรับวิธีการดูแลเครื่องซักผ้าให้สะอาดและถูกสุขอนามัยมากขึ้น
ฟังก์ชั่นล้างถังซักในเครื่องซักผ้าฝาหน้า
เครื่องซักผ้าฝาหน้าของ Samsung มีฟังก์ชั่นล้างถังซักที่มีประสิทธิภาพ นั่นคือ DRUM CLEAN และ DRUM CLEAN+ ซึ่งจะช่วยกำจัดสิ่งสกปรกและเชื้อแบคทีเรียที่ด้านในของถังซัก หลังจากที่ซักผ้าครบตามจำนวนครั้งที่กำหนด เครื่องซักผ้าจะแจ้งเตือนให้คุณล้างถังซัก โดยจะแสดงไฟกะพริบบนแผงควบคุม
หมายเหตุ:
- ดีไซน์ที่แท้จริงของแผงควบคุมอาจแตกต่างจากรุ่นของคุณ
- ภาพนี้เป็นเพียงตัวอย่างที่เป็นภาษาอังกฤษ แต่มีให้เลือกในภาษาของคุณ
ฟังก์ชั่น DRUM CLEAN จะช่วยล้างถังซักโดยอัตโนมัติ โดยจะกำจัดเชื้อราที่อาจก่อตัวขึ้นด้านในของถังซัก ขอแนะนำให้คุณล้างถังซักอย่างสม่ำเสมอเพื่อกำจัดเชื้อแบคทีเรีย โปรแกรมล้างถังซักจะอุ่นน้ำให้มีอุณหภูมิ 60 °C ถึง 70 °C และจะกำจัดสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่ที่ขอบยางประตู
โดยทั่วไปแล้วคุณสามารถล้างถังซักโดยไม่ต้องใช้สารทำความสะอาดเมื่อคุณใช้โปรแกรม DRUM CLEAN
วิธีการใช้ฟังก์ชั่น DRUM CLEAN
ขั้นตอนที่ 1 กดปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง
ขั้นตอนที่ 2 เลือกโปรแกรม DRUM CLEAN บนแผงควบคุม
ขั้นตอนที่ 3 ปิดฝาเครื่อง และกดปุ่มเริ่ม/หยุด
หมายเหตุ: อย่าใช้ผงซักฟอกทั่วไปร่วมกับโปรแกรม DRUM CLEAN และ DRUM CLEAN+
นอกจากนี้ ฟังก์ชั่น DRUM CLEAN+ ซึ่งทำความสะอาดเครื่องซักผ้าเช่นเดียวกัน จะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของเครื่อง ลดการซ่อมแซมเครื่องโดยไม่จำเป็น และยืดอายุการใช้งานของเครื่องได้เหมือนโปรแกรม DRUM CLEAN และคุณยังสามารถล้างถังซักโดยไม่ต้องใช้สารทำความสะอาดใดๆ
ไฟแจ้งเตือน DRUM CLEAN+ จะกะพริบบนแผงควบคุมเมื่อซักผ้าครบทุก 40 ครั้ง (ขอแนะนำให้ล้างถังซักด้วย DRUM CLEAN+ อย่างสม่ำเสมอ ถ้ามีการแจ้งเตือนเกิดขึ้น ให้ล้างที่กรองเศษผงด้วยเช่นกัน)
วิธีการใช้ DRUM CLEAN+
ขั้นตอนที่ 1 กดปุ่มเปิด-ปิดเครื่องเพื่อเปิดเครื่องซักผ้า
ขั้นตอนที่ 2 ไปที่ตัวเลือกโปรแกรมซัก เพื่อเลือก DRUM CLEAN+
ขั้นตอนที่ 3 กดปุ่มเริ่ม/หยุดค้างไว้ (กดค้างไว้เพื่อเริ่มการทำงาน)
หมายเหตุ:
- ดีไซน์ที่แท้จริงของแผงควบคุมอาจแตกต่างจากรุ่นของคุณ
- ภาพนี้เป็นเพียงตัวอย่างที่เป็นภาษาอังกฤษ แต่มีให้เลือกในภาษาของคุณ
คำเตือน
- คุณสามารถล้างถังซักโดยไม่ต้องใช้สารทำความสะอาดเมื่อคุณใช้โปรแกรม DRUM CLEAN (อย่าใช้ผงซักฟอกทั่วไปร่วมกับฟังก์ชั่น DRUM CLEAN และ DRUM CLEAN+)
- สารเคมีตกค้างในถังซักอาจทำให้ผ้าที่ซักหรือถังซักของเครื่องซักผ้าได้รับความเสียหาย
- นอกจากนี้ ห้ามใช้โปรแกรม DRUM CLEAN+ ขณะที่มีเสื้อผ้าอยู่ในเครื่องซักผ้า เพราะอาจทำให้เสื้อผ้าได้รับความเสียหายหรือก่อให้เกิดปัญหาต่อเครื่องซักผ้า
เกี่ยวกับการแจ้งเตือน DRUM CLEAN+
- การแจ้งเตือน DRUM CLEAN+ อาจอยู่ในรูปแบบของไอคอนหรือไฟ LED ขึ้นอยู่กับรุ่นของเครื่องซักผ้า
- สำหรับไอคอน ไฟของไอคอนจะติดสว่างบนแผงควบคุม
- สำหรับไฟ LED ไฟ LED จะติดสว่างอยู่ข้างๆ DRUM CLEAN+ หรือบนพื้นที่ตัวเลือกของแผงควบคุม
- ไฟแจ้งเตือน DRUM CLEAN+ จะกะพริบบนแผงควบคุมเมื่อซักผ้าครบทุก 40 ครั้ง ขอแนะนำให้ล้างถังซักด้วย DRUM CLEAN+ อย่างสม่ำเสมอ
- เมื่อคุณเห็นไฟแจ้งเตือนกะพริบเป็นครั้งแรก คุณสามารถละเว้นการแจ้งเตือนได้สำหรับการซักต่อเนื่องอีก 6 ครั้ง อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่การซักครั้งที่ 7 ไฟแจ้งเตือนจะไม่ปรากฏอีกต่อไป และจะปรากฏขึ้นอีกครั้งในรอบที่สองเมื่อซักครบ 40 ครั้ง
- แม้กระทั่งหลังจากที่กระบวนการสุดท้ายสิ้นสุดลง เลข 0 อาจยังคงอยู่
- คุณสามารถบันทึกการนับจำนวนครั้งของโปรแกรม DRUM CLEAN+ ด้วยการกดปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง วิธีนี้ไม่ได้หยุดหรือปิดเครื่องซักผ้า แต่เป็นการระบุการนับรอบของโปรแกรมล้างถังซัก
- แม้กระทั่งในกรณีที่ 0 ไม่ได้ปรากฏ เครื่องจะทำงานได้ตามปกติ
- ขอแนะนำให้คุณล้างถังซักอย่างสม่ำเสมอเพื่อสุขอนามัยที่ดี
ค้นหาส่วนที่จะต้องทำความสะอาดในเครื่องซักผ้าของคุณ
หมายเหตุ: ดีไซน์ที่แท้จริงของเครื่องซักผ้าอาจแตกต่างจากรุ่นที่แสดง
สำหรับเครื่องซักผ้าฝาหน้า จะต้องตรวจสอบยางที่ติดตั้งตามแนวขอบประตู เพราะอาจมีเชื้อราก่อตัวขึ้นเนื่องจากการสะสมตัวของหยดน้ำตามร่องขอบยาง หลังจากที่ทำความสะอาดขอบยางโดยใช้แปรงขนนุ่มและกระดาษทิชชูแล้ว ควรเปิดประตูเครื่องซักผ้าทิ้งไว้จนกว่าน้ำจะแห้ง
- เปิดประตูเครื่องซักผ้า และเอาเสื้อผ้าออกจากเครื่อง
- ตรวจหารอยเปื้อนบนขอบยางสีเทาระหว่างช่องเปิดที่ประตูและถังซัก
- พลิกขอบยางเพื่อตรวจสอบบริเวณข้างใต้ขอบยางทั้งหมด และดูว่ามีวัตถุแปลกปลอมหรือไม่
- ทำความสะอาดขอบยางโดยใช้แปรงขนนุ่ม กระดาษทิชชู หรือผ้าชุบน้ำหมาดๆ
- ถ้าคุณต้องการใช้สารทำความสะอาด ให้ผสมน้ำยาฟอกขาวที่มีส่วนผสมของคลอรีนกับน้ำอุ่น
- เช็ดขอบยางโดยสารละลายเจือจางดังกล่าวและผ้าชุบน้ำหมาดๆ
- หลังจากที่ทำความสะอาดขอบยางเสร็จแล้ว ให้ใช้ผ้าแห้งเช็ดบริเวณดังกล่าวให้ทั่วและปล่อยทิ้งไว้ให้แห้งสนิท
หมายเหตุ:
- ถ้าต้องทำความสะอาดเป็นเวลานาน ควรสวมถุงมือยาง และปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตน้ำยาฟอกขาวสำหรับการใช้งานที่เหมาะสม
- ถ้าคุณใช้น้ำยาฟอกขาวที่มีส่วนผสมของคลอรีนหรือสารทำความสะอาดอื่นๆ เพื่อทำความสะอาดประตู อาจทำให้ขอบยางประตูมีลักษณะผิดรูปได้
ขั้นตอนที่ 1 ขณะที่กดแกนปล่อยภายในกล่องค้างไว้ ให้เลื่อนเปิดกล่องใส่ผงซักฟอก
ขั้นตอนที่ 2 ทำความสะอาดส่วนต่างๆ ของกล่องโดยใช้แปรงขนนุ่มและน้ำก๊อก
ขั้นตอนที่ 3 ทำความสะอาดร่องต่างๆ โดยใช้แปรงขนนุ่ม
ขั้นตอนที่ 4 ใส่ส่วนบรรจุน้ำยาซักผ้าเข้าไว้ในกล่อง เลื่อนกล่องกลับเข้าที่และปิดให้สนิท
หมายเหตุ:
- ดีไซน์ของกล่องใส่ผงซักฟอกอาจแตกต่างจากรุ่นของคุณ
- ในการกำจัดผงซักฟอกที่หลงเหลืออยู่ ให้เลือกโปรแกรม ล้างน้ำ+ปั่นแห้ง โดยปล่อยถังซักให้ว่างเปล่า
เพื่อป้องกันปัญหาเกี่ยวกับการจ่ายน้ำเข้าเครื่องหรือการระบายน้ำออก ขอแนะนำให้คุณทำความสะอาดแผ่นกรองตาข่ายของสายน้ำเข้าเครื่องปีละหนึ่งหรือสองครั้ง มีแผ่นกรองสองชนิด นั่นคือ แผ่นกรองที่อยู่ข้างในสายน้ำเข้าเครื่อง และที่กรองเศษผงที่อยู่ด้านล่างของเครื่องซักผ้า
ขั้นตอนที่ 1 คลายสกรูสายน้ำเข้าเครื่อง และดึงแผ่นกรองตาข่ายออกมา
ขั้นตอนที่ 2 ใช้คีมหนีบค่อยๆ ดึงแผ่นกรองตาข่ายออกมาจากส่วนปลายของสายยาง
ขั้นตอนที่ 3 นำไปล้างน้ำ นอกเหนือจากแผ่นกรองตาข่ายแล้ว ให้ทำความสะอาดด้านในและด้านนอกของขั้วต่อด้วยเช่นกัน
ขั้นตอนที่ 4 ดันแผ่นกรองกลับเข้าที่
ขั้นตอนที่ 5 ติดตั้งสายยางเข้ากับเครื่องซักผ้าตามเดิม
ขอแนะนำให้ทำความสะอาดที่กรองเศษผงปีละ 5 หรือ 6 ครั้ง เพื่อป้องกันการอุดตัน
ขั้นตอนที่ 1 เปิดฝาปิดที่กรองเศษผง
ขั้นตอนที่ 2 ถอดจุกระบายน้ำสีขาวออกจากท่อระบายน้ำฉุกเฉิน และระบายน้ำใส่ภาชนะที่เหมาะสม
ขั้นตอนที่ 3 หลังจากที่ระบายน้ำออกจนหมดแล้ว ให้ถอดที่กรองเศษผงโดยหมุนทวนเข็มนาฬิกาและดึงออกมา
ขั้นตอนที่ 4 ทำความสะอาดที่กรองเศษผงด้วยแปรงขนนุ่ม
ขั้นตอนที่ 5 ตรวจสอบและทำความสะอาดที่กรอง จากนั้นให้ใส่กลับเข้าที่ โดยดันเข้าไปและหมุนตามเข็มนาฬิกาจนแน่นหนา ใส่จุกปิดท่อระบายน้ำฉุกเฉินกลับเข้าที่อย่างแน่นหนา
ขั้นตอนที่ 6 ใส่ฝาปิดกลับเข้าที่ โดยวางไว้ตรงรูของช่องเปิดที่ด้านล่าง และดันหรือพับปิดเข้ากับด้านบน
หมายเหตุ:
- คุณสามารถเปิดฝาปิดที่กรองเศษผง โดยสอดเหรียญหรือกุญแจเข้าไปในช่องที่ด้านบนแผงปิด และค่อยๆ งัดเปิดออกมา
- ก่อนที่จะเปิดฝาปิด ให้วางผ้าขนหนูหรือตะกร้าไว้ข้างใต้ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำหกใส่พื้นจนเกิดความเสียหาย
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นของคุณ
โปรดตอบคำถามทุกข้อ