คำแนะนำการแก้ไขปัญหาสำหรับเตาอบไฟฟ้าแบบฝังของ Samsung
ถ้าคุณประสบปัญหาเกี่ยวกับเตาอบ ขั้นแรกให้ตรวจสอบคำแนะนำด้านล่างนี้และลองทำตามคำแนะนำ โดยมากแล้ว ไม่ใช่ปัญหาเรื่องอุปกรณ์ทำงานผิดปกติ ถ้ายังคงมีปัญหาอยู่ ให้ติดต่อศูนย์บริการของ Samsung
คำถามที่พบบ่อยสำหรับเตาอบไฟฟ้าแบบฝัง
เตาอบไฟฟ้าแบบฝังของ Samsung ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้กลมกลืนกับชุดห้องครัว และเพิ่มความสะดวกในการทำอาหาร ด้านล่างนี้คือคำถามที่พบบ่อยสำหรับการใช้งานเตาอบไฟฟ้าแบบฝัง ถ้าคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาอ่านคู่มือการใช้งาน
ขั้นตอนที่ 1 ตรวจสอบว่าโหมดประหยัดพลังงานถูกเปิดใช้งานอยู่หรือไม่
- ขณะที่ตั้งค่าโหมดทำอาหาร ถ้าผู้ใช้ไม่ได้ป้อนข้อมูลตามเวลาที่กำหนด อุปกรณ์จะหยุดทำงานและกลับสู่โหมดสแตนด์บาย
- ลองหมุนปุ่มด้านซ้ายหรือกดปุ่มใดๆ
ขั้นตอนที่ 2 ตรวจสอบฟิวส์หรือเบรคเกอร์ในบ้านคุณ
ตรวจดูว่าฟิวส์ในบ้านคุณขาดหรือไม่ หรือเซอร์กิตเบรกเกอร์สับลงมาหรือไม่
ขั้นตอนที่ 3 อย่าปิดสวิตช์เตาอบในทันทีหลังจากที่ทำอาหารเสร็จ
- ตรวจสอบว่าคุณปิดสวิตช์เตาอบในทันทีหลังจากที่ทำอาหารเสร็จหรือไม่ (หรือสับสวิตช์ควบคุมการเปิด/ปิดที่ผนัง)
- ภายหลังการใช้งาน พัดลมระบายความร้อนจะทำงานเพื่อปกป้องเตาอบจากความร้อนที่เกิดขึ้นจนกว่าเตาอบจะเย็นลง ถ้าคุณปิดสวิตช์เตาอบขณะที่เตาอบกำลังระบายความร้อน ไฟฟ้าอาจถูกตัด โดยเป็นผลมาจากการทำงานของอุปกรณ์นิรภัย
- อย่าปิดสวิตช์เตาอบจนกว่าเตาอบจะเย็นลง
หมายเหตุ: ดีไซน์ที่แท้จริงอาจแตกต่างจากรุ่นที่คุณมีอยู่
ขั้นตอนที่ 1 ตรวจดูว่าประตูปิดสนิทหรือไม่
ถ้ามีช่องว่างระหว่างประตูและกรอบ ซึ่งเกิดจากการที่ประตูปิดไม่สนิท ความร้อนจะเล็ดลอดผ่านช่องว่างนั้น และทำให้อุณหภูมิภายในเตาอบต่ำกว่าที่ตั้งไว้หรืออุณหภูมิไม่สม่ำเสมอ
หมายเหตุ: ดีไซน์ที่แท้จริงของผลิตภัณฑ์อาจแตกต่างจากรุ่นที่คุณมีอยู่
ขั้นตอนที่ 2 ในกรณีของเตาอบแบบคู่ (twin oven) (มีแผงกั้นแบ่งเป็นสองส่วน)
ตรวจดูว่าได้เลือกโหมดย่างสำหรับเตาล่างไว้หรือไม่ โหมดย่างสามารถใช้ได้ในเตาอบแบบเดี่ยวและเตาบนเท่านั้น
ตรวจดูว่ามีการใช้แผงกั้นอย่างเหมาะสมหรือไม่
- เลือกโหมดเดี่ยว พร้อมทั้งติดตั้งแผงกั้น (ใส่ไว้): ไม่ถูกต้อง
- เลือกโหมดคู่ และไม่ได้ติดตั้งแผงกั้น: ไม่ถูกต้อง
ขั้นตอนที่ 3 ถ้าคุณตรวจวัดอุณหภูมิภายในโดยใช้เทอร์โมมิเตอร์แบบพกพา
คุณอาจรู้สึกว่าเตาอบไม่ร้อนพอ โดยดูจากค่าอุณหภูมิที่วัดด้วยเทอร์โมมิเตอร์ ที่จริงแล้ว อุณหภูมิที่แสดงบนเทอร์โมมิเตอร์อาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่วัดอุณหภูมิ นอกจากนี้ ยังอาจแตกต่างจากอุณหภูมิที่แท้จริง ซึ่งเป็นผลมาจากค่าความเผื่อของชิ้นส่วนต่างๆ (ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่เพราะอุปกรณ์ทำงานผิดปกติ)
ขั้นตอนที่ 4 ตรวจสอบว่าการตั้งค่าและการจัดเตรียมถูกต้องเหมาะสม
- ตรวจสอบว่าโหมดทำอาหารและอุณหภูมิที่แนะนำถูกตั้งค่าอย่างถูกต้อง
- ตรวจสอบว่าคุณได้ใส่ตะแกรงชั้นวางในเตาอบตามตำแหน่งที่ถูกต้องตามที่ระบุไว้ในคู่มือทำอาหาร
- ตรวจสอบว่าคุณได้เลือกถาดหรือตะแกรงที่เหมาะสมตามชนิดของอาหารที่ต้องการปรุง
ขั้นตอนที่ 1 ตรวจสอบว่าประตูปิดสนิทหรือไม่
ถ้ามีช่องว่างระหว่างประตูและกรอบ ซึ่งเกิดจากการที่ประตูปิดไม่สนิท ความร้อนจะเล็ดลอดผ่านช่องว่างดังกล่าว และทำให้อุณหภูมิภายในเตาอบต่ำกว่าที่ตั้งไว้หรืออุณหภูมิไม่สม่ำเสมอ
ขั้นตอนที่ 2 ในกรณีของเตาอบแบบเดี่ยว (อยู่ในโหมด fast preheat)
ตรวจสอบว่าโหมด fast preheat ถูกเปิดใช้งานหรือไม่ ถ้าจะอุ่นเตาให้ได้ระดับอุณหภูมิที่ต้องการภายในเวลาอันรวดเร็ว ควรจะใช้โหมด fast preheat
หมายเหตุ: ดีไซน์ที่แท้จริงของผลิตภัณฑ์อาจแตกต่างจากรุ่นที่คุณมีอยู่
ขั้นตอนที่ 3 ถ้าคุณตรวจวัดอุณหภูมิภายในโดยใช้เทอร์โมมิเตอร์แบบพกพา
คุณอาจรู้สึกว่าเตาอบไม่ร้อนพอ โดยดูจากค่าอุณหภูมิที่วัดด้วยเทอร์โมมิเตอร์ ที่จริงแล้ว อุณหภูมิที่แสดงบนเทอร์โมมิเตอร์อาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่วัดอุณหภูมิ นอกจากนี้ ยังอาจแตกต่างจากอุณหภูมิที่แท้จริง ซึ่งเป็นผลมาจากค่าความเผื่อของชิ้นส่วนต่างๆ (ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่เพราะอุปกรณ์ทำงานผิดปกติ)
ขั้นตอนที่ 4 ทำการทดสอบด้วยตนเอง
ลองทำการทดสอบด้วยตนเองเพื่อดูว่าเครื่องอยู่ในสภาพปกติหรือไม่
- สภาวะ: เตาอบเย็นลงเพียงพอ และข้างในว่างเปล่า
- การตั้งค่า: โหมดอบ 200℃ (หรือโหมด fast preheat 200℃)
- เวลา: ตรวจสอบเวลาที่ใช้ในการอุ่นเตาจนเสร็จ (มีเสียงสัญญาณดังขึ้นเมื่อการอุ่นเตาเสร็จสมบูรณ์) ถ้าการอุ่นเตาเสร็จสิ้นภายใน 15 นาที แสดงว่าเครื่องทำงานเป็นปกติ
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นของคุณ
โปรดตอบคำถามทุกข้อ