วิธีการใช้ Galaxy Watch

วันที่ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-19

Galaxy Watch ได้รับการออกแบบมาให้สามารถจัดการกับเกือบจะทุกสิ่งตั้งแต่การเพิ่มแอพ การส่งอีเมล การเชื่อมต่อเข้ากับ Spotify หรือการซิงค์กับสมาร์ทโฟนของคุณเพื่อให้แน่ใจได้ว่าวันของคุณจะเป็นไปอย่างราบรื่น นี่คือวิธีการบางอย่างในการตั้งค่า Galaxy Watch ของคุณเพื่อให้คุณเพลิดเพลินไปกับทุกสิ่งทุกอย่างที่ผลิตภัณฑ์นี้มอบให้ในทันที

มุมมองของกอง Galaxy Watch ซึ่งมีสีต่างๆ

เมื่อคุณเชื่อมต่อ Galaxy Watch เข้ากับสมาร์ทโฟนของคุณแล้ว คุณจะสามารถเริ่มต้นสนุกไปกับหลากหลายฟีเจอร์ได้

พึงสังเกตว่า: การซิงค์นาฬิกาของคุณกับสมาร์ทโฟนจะตั้งค่าวันที่และเวลาโดยอัตโนมัติ คุณจะสามารถตั้งค่าวันที่และเวลาได้ด้วยตัวคุณเองเมื่อคุณไม่ได้จับคู่นาฬิกาและสมาร์ทโฟนของคุณเท่านั้น

ในการตั้งค่าวันที่และเวลาด้วยตัวคุณเอง คุณจะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนต่างๆ ดังต่อไปนี้: 

มุมมองเมนูของ Galaxy Watch ซึ่งไอคอนการตั้งค่าได้รับการทำไฮไลต์ไว้ มุมมองเมนูของ Galaxy Watch ซึ่งไอคอนการตั้งค่าได้รับการทำไฮไลต์ไว้

ขั้นตอนที่ 1 เปิดหน้าจอหลัก และสัมผัสไอคอนการตั้งค่า

มุมมองของหน้าจอการตั้งค่าซึ่ง “ทั่วไป” ได้รับการทำไฮไลต์ไว้ มุมมองของหน้าจอการตั้งค่าซึ่ง “ทั่วไป” ได้รับการทำไฮไลต์ไว้

ขั้นตอนที่ 2 สัมผัส “ทั่วไป”

มุมมองของหน้าจอทั่วไปซึ่ง “วันที่และเวลา” ได้รับการทำไฮไลต์ไว้ มุมมองของหน้าจอทั่วไปซึ่ง “วันที่และเวลา” ได้รับการทำไฮไลต์ไว้

ขั้นตอนที่ 3 สัมผัส “วันที่และเวลา”

มุมมองของหน้าจอวันที่และเวลาซึ่ง “ตั้งค่าวันที่” ได้รับการทำไฮไลต์ไว้ มุมมองของหน้าจอวันที่และเวลาซึ่ง “ตั้งค่าวันที่” ได้รับการทำไฮไลต์ไว้

ขั้นตอนที่ 4 สัมผัส “ตั้งค่าวันที่”

มุมมองของหน้าจอ “ตั้งค่าวันที่” ซึ่งปุ่ม “เรียบร้อย” ได้รับการทำไฮไลต์ไว้ มุมมองของหน้าจอ “ตั้งค่าวันที่” ซึ่งปุ่ม “เรียบร้อย” ได้รับการทำไฮไลต์ไว้

ขั้นตอนที่ 5 ปรับโดยการสัมผัสวัน เดือน และปี จากนั้นจึงสัมผัส “เรียบร้อย”

มุมมองของหน้าจอวันที่และเวลาซึ่ง “ตั้งเวลา” ได้รับการทำไฮไลต์ไว้ มุมมองของหน้าจอวันที่และเวลาซึ่ง “ตั้งเวลา” ได้รับการทำไฮไลต์ไว้

ขั้นตอนที่ 6 สัมผัส “ตั้งเวลา”

มุมมองของหน้าจอ “ตั้งเวลา” ซึ่งปุ่ม “เรียบร้อย” ได้รับการทำไฮไลต์ไว้ มุมมองของหน้าจอ “ตั้งเวลา” ซึ่งปุ่ม “เรียบร้อย” ได้รับการทำไฮไลต์ไว้

ขั้นตอนที่ 7 ปรับเวลาโดยการสัมผัสค่าของชั่วโมงและนาที จากนั้นจึงสัมผัส “เรียบร้อย”

ในการเชื่อมต่อเครือข่าย Wi-Fi ด้วยตัวคุณเอง คุณจะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนต่างๆ ดังต่อไปนี้: 

มุมมองเมนูของ Galaxy Watch ซึ่งไอคอนการตั้งค่าได้รับการทำไฮไลต์ไว้ มุมมองเมนูของ Galaxy Watch ซึ่งไอคอนการตั้งค่าได้รับการทำไฮไลต์ไว้

ขั้นตอนที่ 1 ปัดขึ้นบนหน้าจอหลัก และสัมผัสไอคอนการตั้งค่า

มุมมองของหน้าจอ “การตั้งค่า” ซึ่ง “การเชื่อมต่อ” ได้รับก่ารทำไฮไลต์ไว้ มุมมองของหน้าจอ “การตั้งค่า” ซึ่ง “การเชื่อมต่อ” ได้รับก่ารทำไฮไลต์ไว้

ขั้นตอนที่ 2 สัมผัส “การเชื่อมต่อ”

มุมมองของหน้าจอการเชื่อมต่อซึ่ง “Wi-Fi” ได้รับการทำไฮไลต์ไว้ มุมมองของหน้าจอการเชื่อมต่อซึ่ง “Wi-Fi” ได้รับการทำไฮไลต์ไว้

ขั้นตอนที่ 3 สัมผัส “Wi-Fi”

มุมมองของหน้าจอ “Wi-Fi” ซึ่งปุ่มสลับเปิด/ปิดได้รับการทำไฮไลต์ไว้ มุมมองของหน้าจอ “Wi-Fi” ซึ่งปุ่มสลับเปิด/ปิดได้รับการทำไฮไลต์ไว้

ขั้นตอนที่ 4 สัมผัสปุ่มสลับให้เป็น “เปิด”

มุมมองของหน้าจอ Wi-Fi ซึ่งเครือข่าย Wi-Fi ตัวอย่างได้รับการทำไฮไลต์ไว้ มุมมองของหน้าจอ Wi-Fi ซึ่งเครือข่าย Wi-Fi ตัวอย่างได้รับการทำไฮไลต์ไว้

ขั้นตอนที่ 5 เลื่อนลง และสัมผัสเครือข่าย Wi-Fi ที่คุณต้องการจะเชื่อมต่อ

มุมมองของหน้าจอ “รหัสผ่าน” ตัวอย่างซึ่งปุ่ม “เชื่อมต่อ” ได้รับการทำไฮไลต์ไว้ มุมมองของหน้าจอ “รหัสผ่าน” ตัวอย่างซึ่งปุ่ม “เชื่อมต่อ” ได้รับการทำไฮไลต์ไว้

ขั้นตอนที่ 6 ใส่รหัสผ่านของ Wi-Fi และสัมผัส “เชื่อมต่อ”

พึงสังเกตว่า: การเชื่อมต่อ Galaxy Watch เข้ากับสมาร์ทโฟนของคุณผ่านบลูทูธจะปิดใช้งาน Wi-Fi โดยอัตโนมัติ ใช้ Wi-Fi เมื่อจำเป็น

ในการเพิ่มแอพให้ Galaxy Watch ของคุณ คุณจะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนต่างๆ ดังต่อไปนี้:

พึงสังเกตว่า: คุณจะต้องล็อกอินเข้าบัญชี Google™ เพื่อเข้าถึง Play Store

มุมมองเมนูของ Galaxy Watch ซึ่งไอคอน Play Store ได้รับการทำไฮไลต์ไว้ มุมมองเมนูของ Galaxy Watch ซึ่งไอคอน Play Store ได้รับการทำไฮไลต์ไว้

ขั้นตอนที่ 1 ปัดขึ้นบนหน้าจอหลัก และสัมผัสไอคอน Play Store

มุมมองหน้าจอ Play Store ซึ่งฟังก์ชันค้นหาได้รับการทำไฮไลต์ไว้ มุมมองหน้าจอ Play Store ซึ่งฟังก์ชันค้นหาได้รับการทำไฮไลต์ไว้

ขั้นตอนที่ 2 ใส่ชื่อของแอพที่คุณต้องการจะดาวน์โหลด จากนั้นจึงสัมผัสปุ่มค้นหาบนแป้นพิมพ์

มุมมองของหน้าจอ “แอพบนโทรศัพท์ของคุณ” ซึ่งแอพ “Samsung Internet” ได้รับการทำไฮไลต์ไว้ มุมมองของหน้าจอ “แอพบนโทรศัพท์ของคุณ” ซึ่งแอพ “Samsung Internet” ได้รับการทำไฮไลต์ไว้

ขั้นตอนที่ 3 สัมผัสแอพที่คุณต้องการจะดาวน์โหลดจากรายชื่อผลการค้นหา

มุมมองของหน้าจอแอพ Samsung Internet ซึ่งปุ่ม “ติดตั้ง” ได้รับการทำไฮไลต์ไว้ มุมมองของหน้าจอแอพ Samsung Internet ซึ่งปุ่ม “ติดตั้ง” ได้รับการทำไฮไลต์ไว้

ขั้นตอนที่ 4 สัมผัส “ติดตั้ง”

มุมมองของหน้าจอแอพ Samsung Internet ซึ่งปุ่ม “เปิด” ได้รับการทำไฮไลต์ไว้ มุมมองของหน้าจอแอพ Samsung Internet ซึ่งปุ่ม “เปิด” ได้รับการทำไฮไลต์ไว้

ขั้นตอนที่ 5 เมื่อดาวน์โหลดและติดตั้งแอพแล้ว สัมผัส “เปิด”

โปรดทราบ: เพื่อให้ทำงานได้อย่างถูกต้อง แอปบางแอปจะต้องได้รับอนุญาตจาก Galaxy Watch ของคุณหรือติดตั้งแอปที่เกี่ยวข้องบนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อไว้ของคุณ โปรดอ่านข้อกำหนดและเงื่อนไขอย่างละเอียดและตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้เปิดใช้งานการอนุญาตที่เหมาะสมและติดตั้งแอพที่จำเป็นในโทรศัพท์ของคุณก่อนที่จะดาวน์โหลดแอพไปยังอุปกรณ์ของคุณ

ในการโทรออกโดยใช้ Galaxy Watch ของคุณ คุณจะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนต่างๆ ดังต่อไปนี้:

มุมมองเมนูของ Galaxy Watch ซึ่งไอคอนโทรศัพท์ได้รับการทำไฮไลต์ไว้ มุมมองเมนูของ Galaxy Watch ซึ่งไอคอนโทรศัพท์ได้รับการทำไฮไลต์ไว้

ขั้นตอนที่ 1 ปัดขึ้นบนหน้าจอหลัก และสัมผัสไอคอนโทรศัพท์

มุมมองของหน้าจอการโทรออกซึ่งปุ่มกดและไอคอนรายชื่อได้รับการทำไฮไลต์ไว้ มุมมองของหน้าจอการโทรออกซึ่งปุ่มกดและไอคอนรายชื่อได้รับการทำไฮไลต์ไว้

ขั้นตอนที่ 2 สัมผัสปุ่มกดหรือไอคอนรายชื่อ

มุมมองของหน้าจอปุ่มกดและไอคอนโทรศัพท์ มุมมองของหน้าจอปุ่มกดและไอคอนโทรศัพท์

ขั้นตอนที่ 3 ใส่หมายเลขโทรศัพท์หรือสัมผัสรายชื่อที่คุณต้องการจะโทรออก

มุมมองของหน้าจอรายชื่อซึ่งไอคอนโทรศัพท์ได้รับการทำไฮไลต์ไว้ มุมมองของหน้าจอรายชื่อซึ่งไอคอนโทรศัพท์ได้รับการทำไฮไลต์ไว้

ขั้นตอนที่ 4 สัมผัสไอคอนโทรศัพท์

โปรดทราบ: ฟีเจอร์นี้ไม่รองรับรุ่นที่มี Wi-Fi เพียงอย่างเดียวเท่านั้น

หากต้องการยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ของ Galaxy Watch โปรดทำตามขั้นตอนเหล่านี้:

เปิดใช้งานโหมด ประหยัดพลังงาน

รายการไอคอนแอพ รายการไอคอนแอพ

ขั้นตอนที่ 1 ปัดและแตะไอคอน การตั้งค่า

หน้าจอ "การตั้งค่า" ของ Galaxy Watch หน้าจอ "การตั้งค่า" ของ Galaxy Watch

ขั้นตอนที่ 2 ปัดขึ้นและแตะแบตเตอรี่

ฟีเจอร์ "ประหยัดพลังงาน" ของ Galaxy Watch ฟีเจอร์ "ประหยัดพลังงาน" ของ Galaxy Watch

ขั้นตอนที่ 3 แตะประหยัดพลังงาน
* ฟีเจอร์ Galaxy Watch อาจแตกต่างกันไปตามรุ่น

ปิดแอปพื้นหลัง

รายการไอคอนแอพ รายการไอคอนแอพ

ขั้นตอนที่ 1 ปัดและแตะไอคอน การตั้งค่า

หน้าจอ "การตั้งค่า" ของ Galaxy Watch หน้าจอ "การตั้งค่า" ของ Galaxy Watch

ขั้นตอนที่ 2 ปัดขึ้นและแตะ การดูแลอุปกรณ์ > ปัดขึ้นและแตะ หน่วยความจำ

หน้าจอสำหรับปิดแอปพื้นหลัง หน้าจอสำหรับปิดแอปพื้นหลัง

ขั้นตอนที่ 3 ปัดขึ้นและแตะล้างตอนนี้

ปิดการติดตามสุขภาพที่ไม่ได้ใช้

รายการไอคอนแอพ รายการไอคอนแอพ

ขั้นตอนที่ 1 ปัดและแตะไอคอน Samsung Health

ตัวเลือก "อัตราการเต้นหัวใจ" "ความเครียด" และ "การนอนหลับ" ใน "การตั้งค่า" ตัวเลือก "อัตราการเต้นหัวใจ" "ความเครียด" และ "การนอนหลับ" ใน "การตั้งค่า"

ขั้นตอนที่ 2 ปัดและแตะ การตั้งค่า > แตะ อัตราการเต้นหัวใจ ความเครียด หรือ การนอนหลับ > เลือกตัวเลือกจากรายการที่พร้อมใช้งาน เปลี่ยนระยะเวลาของฟีเจอร์

“กิจกรรมที่จะตรวจจับ” ใน “การตั้งค่า” “กิจกรรมที่จะตรวจจับ” ใน “การตั้งค่า”

ขั้นตอนที่ 3 ปัดไปทางซ้ายเพื่อกลับไปที่ การตั้งค่า > ปัดขึ้นไปยัง กิจกรรมที่จะตรวจจับ > แตะ สวิตช์

ปิด “นาฬิกาเปิดตลอดเวลา”

รายการไอคอนแอพ รายการไอคอนแอพ

ขั้นตอนที่ 1 ปัดและแตะไอคอน การตั้งค่า

สวิตช์ "Always On Display" สวิตช์ "Always On Display"

ขั้นตอนที่ 2 ปัดขึ้นและแตะ จอแสดงผล > ปัดขึ้นไปยัง Always On Display > แตะสวิตช์

เปิดโหมดนาฬิกาเท่านั้น

รายการไอคอนแอพ รายการไอคอนแอพ

ขั้นตอนที่ 1 ปัดและแตะไอคอน การตั้งค่า

อายุแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ อายุแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่

ขั้นตอนที่ 2 ปัดขึ้นและแตะแบตเตอรี่

ตัวเลือก "เปิด" สำหรับโหมด "นาฬิกาเท่านั้น" ตัวเลือก "เปิด" สำหรับโหมด "นาฬิกาเท่านั้น"

ขั้นตอนที่ 3 ปัดขึ้นและแตะ นาฬิกาเท่านั้น > ปัดขึ้นและแตะ เปิด

ทำการวิเคราะห์

แอป Samsung Members แท็บ ค้นพบ แอป Samsung Members แท็บ ค้นพบ

ขั้นตอนที่ 1 เปิดแอป Samsung Members บนโทรศัพท์ของคุณ > แตะแท็บ ค้นพบ > เลือก การวิเคราะห์

ฟีเจอร์ การวิเคราะห์ ฟีเจอร์ การวิเคราะห์

ขั้นตอนที่ 2 เลือกการวิเคราะห์นาฬิกา

รายการการทดสอบวิเคราะห์ที่มีอยู่ รายการการทดสอบวิเคราะห์ที่มีอยู่

ขั้นตอนที่ 3 เลือก สถานะแบตเตอรี่ > ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอ
* การทดสอบที่ใช้ได้อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับรุ่น Galaxy Watch ของคุณ

คำแนะนำอื่นๆ สำหรับการประหยัดแบตเตอรี่

  • อย่าให้นาฬิกาสัมผัสกับอุณหภูมิที่สูงเกินไป
  • ปิดการปลุกด้วยเสียงใน Bixby หรือ Google Assistant
  • ปรับแต่งการตั้งค่าการแจ้งเตือนของคุณ

พึงสังเกตว่า: ฟีเจอร์ของ Galaxy Watch อาจแตกต่างกันออกไปในแต่ละรุ่น

ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นของคุณ