จอสัมผัสของโทรศัพท์ตอบสนองช้าหรือเกิดปัญหาประการอื่น

วันที่ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-02

หากจอสัมผัสของคุณเกิดอาการค้าง ไม่ตอบสนองการสัมผัส หรือหน้าจอดับ นั่นไม่ได้หมายความว่าโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตของคุณมีปัญหาเสมอไปเพราะอาการที่กล่าวมาข้างต้น อาจจะเกิดจากบางอย่างที่ใกล้ตัวคุณมากจนนึกไม่ถึง เช่น อาจมีแอปพลิเคชั่นที่ทำงานผิดปกติจนพาเครื่องค้าง รอยแตกในหน้าจอที่อาจจะทำให้เครื่องตอบสนองช้า หรือไม่ก็เป็นปัญหาอื่น เราจะแนะแนวทางการแก้ไขปัญหาบางกรณีเพื่อการเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นในเบื้องต้นและวิธีแก้ไขปัญหาเหล่านั้นให้ลุล่วง

วิธีแก้ไขเมื่อหน้าจอสัมผัสไม่ได้ ในกรณีที่เป็นสมาร์ทโฟนของ Samsung เพราะโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตของคุณอาจไม่ได้มีปัญหาเสมอไป วิธีแก้ไขเมื่อหน้าจอสัมผัสไม่ได้ ในกรณีที่เป็นสมาร์ทโฟนของ Samsung เพราะโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตของคุณอาจไม่ได้มีปัญหาเสมอไป

ข้อความสำคัญโปรดอ่านให้จบ: ก่อนจะเข้าสู่ขั้นตอนต่อไปขอให้ท่านนำฟิล์มกันรอยหรือเคสโทรศัพท์ออก ตรวจสอบให้แน่ใจว่าหน้าจอแห้งและสะอาด และหากสวมถุงมืออยู่ให้ถอดออกเพราะหน้าจออาจไม่รับรู้การสัมผัสของท่านผ่านนิ้วมือที่ห่อหุ้มด้วยถุงมือหรือนิ้วมือที่แห้งแตกเกินไป

1 การบังคับรีบูตโทรศัพท์

กดปุ่ม Volume Down และ Power ค้างไว้ 10-20 วินาที เพื่อเป็นจำลองการถอดแบตเตอรี่ ซึ่งมีค่าเทียบเท่ากับการบังคับรีบูตหรือการรีเซ็ตเครื่องแบบปกติ

2 เพิ่มประสิทธิภาพด้วยการบำรุงอุปกรณ์

หมายเหตุ : ฟีเจอร์นี้ไม่รองรับในโทรศัพท์ซึ่งใช้รุ่นแอนดรอยด์ Verizon Nougat (7.0) และตรวจสอบพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเพื่อเช็กให้แน่ใจว่าปัญหาไม่ได้เกิดจากพื้นที่จัดเก็บข้อมูลใกล้เต็ม แต่หากเป็นเพราะสาเหตุนี้จริงให้ทำการถ่ายโอนข้อมูลลงในการ์ดหน่วยความจำ คอมพิวเตอร์ส่วนตัวหรือคลาวด์

ไปยัง Apps เข้าส่วน การตั้งค่า เลือก การบำรุงรักษาอุปกรณ์ และเลือก ปุ่ม แก้ไขตอนนี้หรือปรับตอนนี้ ฟีเจอร์นี้จะปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวมด้วยการสแกนการใช้พลังงานที่ผิดปกติ  การสูญเสียพื้นที่จัดเก็บข้อมูลโดยไม่จำเป็นและแอปพลิเคชั่นไม่เสถียรหรือมีแนวโน้มว่าจะเป็นอันตรายต่อเครื่อง

3 ตรวจสอบการอัพเดทซอฟท์แวร์

เข้าไปส่วน การตั้งค่า เลือก อัพเดทซอฟท์แวร์ และกดปุ่ม ดาวน์โหลดการอัพเดทด้วยตัวเอง เพื่อให้เครื่องได้ตรวจสอบการอัพเดทของซอฟท์แวร์รออยู่ ให้กดดาวน์โหลดและติดตั้ง โดยการอัพเดทซอฟท์แวร์ทุกครั้งจะใช้เวลาประมาณ 20 นาทีจึงแล้วเสร็จ ทำตามทุกขั้นตอนที่ปรากฏบนหน้าจอเพื่อให้การอัพเดทซอฟท์แวร์เป็นไปอย่างสมบูรณ์

หมายเหตุ: เมนูปลีกย่อยอาจแตกต่างกันไปตามผู้ให้บริการ และหากไม่สามารถอัพเดทได้ ให้ลองเปลี่ยนมาใช้การอัพเดทโดยแบบอัตโนมัติ

4 รีบูตเครื่องเข้า Safe mode

กด Power key ค้างไว้จนกระทั่งเมนู Power ปรากฏ จากนั้นให้เลือกปุ่ม Power off และเมื่อมีไอคอน Safe mode แสดงขึ้น ก็ให้กดที่ปุ่มนั้นอีกครั้ง โทรศัพท์ก็จะเข้าสู่ Safe mode เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการ เครื่องจะเปิดขึ้นอีกครั้ง คุณจะต้องใส่รหัสยืนยันความปลอดภัยที่ตั้งไว้ ถ้าหากการเข้าสู่ Safe mode ของคุณสมบูรณ์ คุณจะเห็นคำว่า Safe mode แสดงอยู่ด้านล่างของหน้าจอ และวิธีเข้าสู่ Safe mode อีกวิธีคือการใช้ Hardware keys เพื่อกดปิดเครื่อง เมื่อเครื่องเปิดขึ้นอีกครั้งและโลโก้ของซัมซุงปรากฏ ให้รีบกดปุ่ม Volume Down ค้างไว้จนกระทั่งเห็นคำว่า Safe mode แสดงอยู่ด้านล่างของหน้าจอ

 

  • หากโทรศัพท์ของคุณทำงานปกติภายใต้ Safe mode ขอให้คุณถอนการติดตั้งแอปพลิเคชั่นที่ดาวน์โหลดและติดตั้งก่อนเครื่องจะมีปัญหา หลังถอนการติดตั้ง ให้กดรีสตาร์ทและหลังจากนั้นเครื่องจะกลับมาเป็นปกติ
  • หากปัญหายังคงมีอยู่ ให้นำเครื่องไปยัง Support Center เพื่อรับบริการซ่อมแซม

 

1 ถอดเคสและฟิล์มกันรอยหน้าจอออกจากอุปกรณ์

ถอดฟิล์มกันรอยหรือเคสโทรศัพท์ออก ตรวจสอบให้แน่ใจว่าหน้าจอแห้งและสะอาด และถอดถุงมือออกหากใส่อยู่ เพราะหน้าจออาจไม่รับรู้การสัมผัสของท่านผ่านนิ้วมือที่ห่อหุ้มด้วยถุงมือหรือนิ้วมือที่แห้งแตกเกินไป

หมายเหตุ: หากหน้าจอของคุณแตกหรือเสียหายคุณอาจไม่สามารถทำตามขั้นตอนเหล่านี้ได้และอาจจำเป็นต้องทำการซ่อม กรุณาติดต่อศูนย์สนับสนุนเพื่อขอบริการ

2 การบังคับรีบูตโทรศัพท์

กดปุ่ม Volume Down และ Power ค้างไว้ 7 วินาที เพื่อเป็นจำลองการถอดแบตเตอรี่ ซึ่งมีค่าเทียบเท่ากับการบังคับรีบูตหรือการรีเซ็ตเครื่องแบบปกติ

3 ชาร์จโทรศัพท์

โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าสายชาร์จที่ท่านใช้เป็นสายชาร์จจากซัมซุง และมีการเชื่อมต่อกับตัวเครื่องรวมถึงเต้ารับไฟฟ้าอย่างสมบูรณ์ เมื่อชาร์จเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงแล้ว ให้ถอดสายชาร์จออก และเปิดเครื่องอีกครั้งด้วยการกดปุ่ม Power ค้างไว้จนเห็นโลโก้ซัมซุงปรากฏ

  • หากโทรศัพท์ของท่านยังไม่สามารถเปิดเครื่องได้หลังจากการชาร์จหนึ่งชั่วโมง ให้ลองวิธีบังคับรีบูตอีกครั้ง
  • หากหน้าจอยังคงดับ ไม่สามารถใช้วิธีบังคับรีบูตได้และยังมีเสียงหรือแรงสั่นเกิดขึ้นกับตัวเครื่องแม้หน้าจอจะยังดับอยู่ ให้ท่านนำเครื่องไปยัง Support Center เพื่อรับบริการซ่อมแซม

➀ เข้าสู่ส่วน Settings จากทาง Home Screen ด้วยการปัดขึ้นเพื่อเข้าสู่ Apps Screen และกดเลือก การตั้งค่า หรืออีกวิธีคือปัด notification bar ลงมาและกดเลือกไอคอน Settings

 

➁ หาส่วน Display (จอภาพ) และกดเลือก

 

➂ เลื่อนลงเพื่อค้นหาส่วน Touch sensitivity (ความไวสัมผัส) เมื่อพบ ให้กดเลือก เพื่อเปิดใช้งาน

 

 

ตรวจเช็ค, ซ่อม, หรืออัปเกรด

ตรวจเช็ค, ซ่อม, หรืออัปเกรด

*ปรึกษากับตัวแทนผู้เชี่ยวชาญของเราเพื่อซ่อมแซมหรืออัพเกรด
*ตรวจเช็ค Galaxy สามารถเข้าถึงได้ผ่านแอพ Samsung Members บนสมาร์ทโฟน Galaxy เท่านั้น

ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นของคุณ